ติดตามรายละเอียด FB : DEEPS NEWS

ถือเป็นความรู้สึกหนึ่งเดียวกันของคนไทยทั้งประเทศ   ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหน  แต่วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  เมื่อวันที่ 26  ต.ค. 2560  จะยังอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน  เพราะเป็นวันที่นำมาซึ่งน้ำตาของคนไทยหลายสิบล้านชีวิต  และทุกหมู่เหล่าที่ได้ร่วมกันเฝ้าติดตามพระราชพิธีดังกล่าวอย่างใจจรดใจจ่อ  รวมถึงอีก 20 ล้านคนที่เข้าร่วมในพระราชพิธีฯตามจุดต่าง ๆ

ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อว่า  “Jaeng  Moon”  ได้แชร์โพสต์เรื่องราวที่ปรากฏในนิตยสารฉบับหนึ่งของฝรั่งเศส  ลงในเพจพิพิธประวัติศาสตร์   มีใจความสำคัญและภาพปรากฎที่ทำให้เห็นว่าองค์พ่อหลวงของคนไทย คือ พระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่  ไม่ใช่เฉพาะกับคนไทยในประเทศ  หากแต่พระองค์ยังเป็นที่เคารพจากสากลโลก  ด้วยพระราชกรณียกิจ  พระปรีชาสามารถ  และพระเมตตาที่พระองค์มีต่อพสกนิกรตลอดช่วง 70 ปีแห่งการครองราชย์

“วันนี้ขอแวะไปเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นยังอีกฟากหนึ่งของโลกคือที่ประเทศฝรั่งเศสสักแป๊บนะ นิตยสาร Point de Vue ฉบับวันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2016 ได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยคอลัมนิสต์ชื่อ Antoine Michelland

 

จู่ๆน้ำตาก็ปริ่มอีกแล้ว! นิตยสารดังฝรั่งเศสบันทึกประวัติศาสตร์ ๒๖ ต.ค. เทิดพระเกียรติในหลวง ร.๙ เป็นมากกว่าพระมหากษัตริย์ของไทย

ทางนิตยสารได้อุทิศหน้า 16-25 ทั้งหมด 10 หน้าเพื่อร้อยเรียงเรื่องราวเกี่ยวกับงานพระราชพิธีที่จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติเพื่อให้ชาวฝรั่งเศสได้อ่านและรับทราบกันถึงความรักและการถวายความอาลัยอย่างหาที่สุดมิได้ของปวงชนชาวไทยแด่องค์พ่อหลวง โดยบรรยายไว้ตั้งแต่หน้าแรกว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรเสด็จสู่สวรรคาลัย และ “วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 กรุงเทพฯ ได้กลายเป็นศูนย์กลางของความอาดูรทั้งปวงบนโลกใบนี้” 

เชื่อว่าผู้เขียนเรื่องนี้คงอยู่ประเทศไทยในช่วงงานพระราชพิธี เพราะบรรยายความงามของพระราชพิธีได้อย่างสมพระเกียรติ และด้วยการใช้ถ้อยคำที่ให้ความเคารพอย่างสูง ทั้งยังอธิบายความเชื่อของไทยหลายเรื่อง อาทิ คติความเขื่อกษัตริย์คือสมมติเทพ โดยบอกว่าพระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นองค์สมมติเทพของพระนารายณ์ 

เนื้อหาในบทความเกี่ยวกับพระราชพิธีเชิญพระบรมโกศออกพระเมรุมาศในวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ในแต่ละหน้าของบทความได้เล่าเรื่องผ่านภาพพร้อมเขียนบรรยายรายละเอียดของพระราชพิธี ซึ่งผู้เขียนน่าจะได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เพราะสามารถเขียนได้เหมาะสมและให้ความเคารพต่อโบราณราชประเพณีเกี่ยวกับพระราชพิธีพระบรมศพ อาทิ การอธิบายลำดับงานตามหมายกำหนดการได้ครบถ้วน การเขียนอธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างพระเมรุมาศตามคติไตรภูมิพระร่วง ที่จำลองพระเมรุมาศเป็นเสมือนเขาพระสุเมรุและสัตบริภัณฑ์เพื่อส่งเสด็จสู่ทิพยวิมาน หรือประติมากรรมปูนปั้นลวดลายประดับตกแต่งพระเมรุมาศ เช่นครุฑยืนรอบพระเมรุมาศ รวมถึงอธิบายถึงการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ว่าในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพมีการแสดงมหสพสมโภชในงานออกพระเมรุพระบรมอัฐิด้วย โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นเครื่องปลอบประโลมคลายทุกข์โศกแก่ประชาชน และเพื่อเป็นการส่งเสด็จเจ้านายสู่สรวงสวรรค์อย่างสมพระเกียรติที่สุด

 

จู่ๆน้ำตาก็ปริ่มอีกแล้ว! นิตยสารดังฝรั่งเศสบันทึกประวัติศาสตร์ ๒๖ ต.ค. เทิดพระเกียรติในหลวง ร.๙ เป็นมากกว่าพระมหากษัตริย์ของไทย

ส่วนภาพประกอบเป็น  ภาพพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งภาพริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมโกศไปพระเมรุมาศที่งามสมพระเกียรติ ภาพสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรเสด็จพระราชดำเนินไปในการเชิญพระบรมโกศออกพระเมรุมาศ ภาพของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่เสด็จในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิง ภาพพระมหาพิชัยราชรถขณะอัญเชิญพระบรมโกศ ภาพพระบรมวงศ์  พระประมุข พระราชวงศ์ และผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศ และภาพประชาชนคนไทยที่หมอบกราบลงกับพื้น 

บรรทัดสุดท้ายผู้เขียนได้บรรยายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนี้ “เป็นเพราะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงเป็นทั้งพ่อหลวง เป็นพระมหากษัตริย์ และเป็นองค์เทพยดาของปวงชนชาวไทย และวันนี้พระองค์ได้เสด็จสู่สวรรคาลัยอย่างแท้จริงแล้ว”

 

จู่ๆน้ำตาก็ปริ่มอีกแล้ว! นิตยสารดังฝรั่งเศสบันทึกประวัติศาสตร์ ๒๖ ต.ค. เทิดพระเกียรติในหลวง ร.๙ เป็นมากกว่าพระมหากษัตริย์ของไทย

 

จู่ๆน้ำตาก็ปริ่มอีกแล้ว! นิตยสารดังฝรั่งเศสบันทึกประวัติศาสตร์ ๒๖ ต.ค. เทิดพระเกียรติในหลวง ร.๙ เป็นมากกว่าพระมหากษัตริย์ของไทย

 

ขอบคุณ :  เฟซบุ๊ก  “Jaeng  Moon”   และ  พิพิธประวัติศาตร์