ปรับใหญ่ ครม. “ประยุทธ์ 5” โละสายทหาร จับตารัฐมนตรีเพื่อนรัก “พล.อ.ฉัตรชัย” กับการตัดสินใจที่ไม่ง่ายของ“พล.อ.ประยุทธ์”

ชัดเจนแล้วสำหรับการปรับ ครม. ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือเป็นประเด็นร้อนในขณะนี้ และถูกหยิบยกมาพูด หลังมีข่าวการตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ของ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล แบบยกทีม  ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์  ใช้ มาตรา 44 ออกคำสั่งให้ นายวรานนท์ ปีติวรรณ พ้นจากตําแหน่ง อธิบดีกรมการจัดหางาน  ซึ่งทำให้ถูกจับตามองว่า การลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของ พล.อ. ศิริชัย เพื่อเปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาปรับเปลี่ยนตำแหน่งใน ครม. ได้อย่างสะดวกขึ้น เพื่อนำไปสู่การปรับเล็ก-ใหญ่ในคณะรัฐมนตรี เร็ว ๆ นี้..

ประเด็นสำคัญจากท่าทีของพล.อ.ปะยุทธ์ ในการตอบคำถาม “การปรับครม.ครั้งนี้ สัดส่วนรัฐมนตรีทหารจะน้อยลงจริงหรือไม่?” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังคิดอยู่ ต้องใช้เวลา มันมีเวลาของมันอยู่..!! นั้นก็อาจจะหมายความว่า  “ทหารจะน้อยลง” มืออาชีพ หรือ คนนอก จะเข้ามามากขึ้น 

 

ดังนั้นเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของ “ครม.พล.อ.ประยุทธ์”ให้กลับมาดีขึ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่ต้องกลับมาฟังเสียงของประชาชน ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ก.ค.60  ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง ‘การปรับคณะรัฐมนตรี’ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับกระทรวง ที่ต้องการให้มีการสลับสับเปลี่ยนการทำงานของคณะรัฐมนตรีมากที่สุด พบว่าลำดับ1
ร้อยละ 18.40 ระบุว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นั้นก็คือ “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” อีกทั้งยังถูกเป็นเป้าโจมตี จากบรรดาเหล่านักการเมืองทั้งหลาย อย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องราคาพืชผลการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นราคาข้าว และล่าสุดก็เป็นเรืองเดิมๆ ราคายางตกต่ำ ที่แก้เท่าไหร่ก็ไม่หายขาด

 

แต่การปรับเปลี่ยน “พล.อ.ฉัตรชัย” อาจไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับ “พล.อ.ประยุทธ์” เพราะ ทั้ง2 ท่าน ถือเพื่อนรัก เพื่อนสนิทกัน มิหน้ำซ้ำยังเรียนจบรุ่นเดียวกัน โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 12 (ตท.12) และ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 23 (จปร.23)  “พล.อ.ฉัตรชัย” เติบโตมาจากเหล่า “ทหารช่าง” และถือเป็น “ขุนศึก” ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ-การเงิน มากที่สุดคนหนึ่งของกองทัพบก ตำแหน่งสำคัญ เจ้ากรมการเงินทหารบก รองปลัดบัญชีทหารบก ผู้ช่วยเสธ.ทบ. ฝ่ายส่งกำลังบำรุง รอง เสธ.ทบ. ก่อนขยับขึ้น “พลเอก”ในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ แล้วก้าวสู่ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ.เคยเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5

หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557  “พล.อ.ฉัตรชัย”ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ใน “ครม.ประยุทธ์1” ต่อมาได้ปรับไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558ใน “ครม.ประยุทธ์3”

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาลได้เปิดเผยเอาไว้ว่า  นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.อ.ฉัตรชัย  เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมตัดสินใจปรับใหญ่คณะรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนงานช่วงปลายรัฐบาลก่อนมีการเลือกตั้งในปี 2561

แน่นอนว่าการตัดสินใจ เพื่อเตรียมปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ภายในปลายปีนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ต้องลำบากใจ เพราะเพื่อน..ก็สำคัญ ร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกันครั้งตอนยึดอำนาจ แต่ประโยชน์ของประเทศชาติต้องมาก่อน ..ท้ายที่สุดไม่ว่า พล.อ.ฉัตรชัย จะอยู่ต่อ หรือว่า หลุดออกไป ก็เชื่อว่าทั้งพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ฉัตรชัย ต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน อย่างแน่นอน