เอ้า!เฮสิ! รอไร! ครม.ไฟเขียวช็อปช่วยชาติเริ่มตั้งแต่ 11 พ.ย. ถึง 3 ธ.ค.

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการลดหย่อนภาษีช็อปช่วยชาติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงสิ้นปี จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.ถึง 3 ธ.ค.นี้ รวม 23 วัน โดยสามารถนำมาลดหย่อนภาษีไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท

ก่อนหน้านี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เชื่อมั่นว่า มาตรการช็อปช่วยชาติ เป็นมาตรการที่ทำให้กระตุ้นการจับสายใช้สอยในช่วยปลายปีนี้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพิ่มขึ้น ถึงแม้ปัจจุบันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4% และในไตรมาสที่ 4 จะขยายตัวได้มากกว่า 4% ทำให้ทั้งปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.8 - 3.9%

ทั้งนี้ รัฐบาลได้พยายามออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจไทยลอยขึ้นติดลมบน เหมือนกับการเล่นว่าว เพราะตราบใดที่ยังไม่ติดลมบน ก็ต้องค่อยกระตุ้นและดูแลอย่างใกล้ชิด ดังนั้น เศรษฐกิจในช่วงนี้ยังไม่ติดลมบนศักยภาพของเศรษฐกิจไทยที่ดีน่าจะเติบโตที่ระดับ 4-5% ซึ่งมาตรการช็อปช่วยชาติ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนโดยเฉพาะคนที่มีรายได้สูงและรายได้ปานกลางที่เดินทางท่องเที่ยวและซื้อสินค้าจากต่างประเทศ จะหันมาซื้อสินค้าและใช้จ่ายเงินภายในประเทศมากขึ้น ส่วนข้อเสียคือ คนจะติดใจ และรอมาตรการดังกล่าวทุกๆ ปี

ส่วนเรื่องการยกร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน พ.ศ....ยอมรับว่าเป็นข้อเสนอของตัวเอง ไม่ใช่ยึดเงินฝากของประชาชน และไม่ใช่เรื่องคลังถังแตก เนื่องจากเงินฝากที่กระทรวงการคลังดึงมาจากสถาบันการเงิน จะอยู่ในเงินคงคลังซึ่งสามารถถอนเงินฝากได้ไม่มีการสูญหาย และจะผลักดันเรื่องนี้ต่อไป เพราะเม็ดเงินที่คาดว่าจะดึงมาได้ 10,000 ล้านบาท หากนำมาอยู่ในเงินคงคลัง ก็เท่ากับว่า รัฐบาลไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหากต้องกู้เงิน 10,000 ล้านบาทจากตลาดเงิน