ฟักทอง!! รู้ไหม...ประโยชน์ล้วนๆ

สิ่งดีๆที่คุณไม่ควรพลาดที่จะรับประทานกันนะค่ะ ฟังทอง หลายทานต้องเคย รู้จักหรือลองรับประทานกันมาแล้วเพราะ นำมาทำได้ทั้งหวานและคาว เรื่องของประโยชน์ไม่ต้องพูดถึง เพียบ ฟักทอง (Pumpkin) นั้นจัดเป็นพืชผักที่อุดมไปด้วยประโยชน์นานา มีรสชาติหวาน ซึ่งทั้งต้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วนเลยก็ว่าได้ โดยชาวจีนมักนิยมเรียกฟักทองนี้ว่า หกกวย, ฮวงกวย หรือแบะกวย เป็นต้น ฟักทองนี้จัดเป็น 1 ใน 50 สุดยอดสมุนไพรจีนอีกด้วย โดยส่วนใหญ่ผู้คนมักนิยมนำมารับประทานทั้งแบบผลสดแล้วนำไปนึ่ง หรือปรุงเป็นอาหารคาวและหวานรับประทานกัน นอกจากนี้ยังนำผลฟักทองไปทำเป็นภาชนะสำหรับใส่อาหารชนิดอื่นอีกด้วย และยังมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรอีกมากมายเลยทีเดียว

ลักษณะทั่วไปของฟักทอง

ฟักทองนั้นจัดเป็นไม้เถาเลื้อย โดยมีลักษณะลำต้นค่อนข้างอวบ มีเถาขนาดใหญ่และยาว รวมทั้งมีขนขึ้นปกคลุมอยู่ ซึ่งใบนั้นจะออกเป็นใบเดี่ยวรูปห้าเหลี่ยมตามลำเถา ส่วนดอกนั้นจะมีสีเหลืองออกเป็นดอกเดี่ยวอยู่ตามส่วนยอดของเถาหรือตามง่ามใบ เป็นรูประฆังหรือกระดิ่ง และผลของฟักทองนั้นจะมีขนาดกลมใหญ่ มีเปลือกหนา แข็ง และขรุขระ อาจมีสีน้ำตาลอมแดง หรือเขียว ก็ได้ตามแต่ละสายพันธุ์ และเนื้อในของฟักทองนั้นจะมีสีเหลืองสวยงามดูน่ารับประทาน พร้อมเมล็ดสีขาวด้านในหลายเมล็ด

 

วิธีการนำฟักทองมารับประทาน

– ให้นำฟักทองประมาณ 250 กรัม มาผสมกับน้ำรับประทานเป็นน้ำแกง ป้องกันโรคเบาหวาน

– นำฟักทองมาสักครึ่งกิโลกรัม แล้วราดน้ำผึ้งลงไปผสมรับประทาน เพื่อบรรเทาอาการหอบหืด โดยเฉพาะในระยะเริ่มแรกที่เป็นจะได้ผลดี

– นำฟักทองมาต้มกับตับหมู ช่วยให้สายตาดี

– ให้นำเนื้อฟักทองสัก 120 กรัม มาคั่วบดให้เป็นผงชงดื่มกับน้ำอุ่น ทำให้ผู้หญิงหลังคลอดมีน้ำนม

– รับประทานเนื้อฟักทองดิบช่วยถ่ายพยาธิ โดยให้ทานติดต่อกันประมาณ 3 วัน ในปริมาณ 100 กรัม

– นำเมล็ดฟักทองมาคั่วประมาณ 150 กรัม ช่วยขับพยาธิตัวตืดในร่างกายได้

ประโยชน์และสรรพคุณของฟักทอง

– ช่วยยับยั้งและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในร่างกาย โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในผู้ที่มีอายุมาก

– ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยเฉพาะช่วงเอวและหัวเข่า

– ช่วยป้องกันการเกิดโรคอัมพฤกษ์หรืออัมพาต

– ช่วยบำรุงให้ผิวพรรณดี เปล่งปลั่ง สดใส

– ช่วยบำรุงและฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง

– ช่วยป้องกันโรคภัยต่างๆ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, โรคทางสายตา หรือบำรุงตับและไต เป็นต้น

– เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีพลังงานต่ำ และไขมันน้อย

– ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี เพราะมีกากใยอาหารสูง

– ช่วยป้องกันการเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหารอักเสบ

– ช่วยขับเสมหะในลำคอได้

– ช่วยป้องกันโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

– บำรุงปอดและม้ามให้แข็งแรง ป้องกันอาการหืดหอบจากหลอดลมอักเสบ

– ช่วยขับพยาธิตัวตืดออกจากร่างกายได้

 

ข้อห้ามในการรับประทานฟักทอง

– หากทานมากจนเกินไปจะทำให้เกิดอาการแน่นท้อง

– ผู้ที่มีอาการจุกเสียดหรือรู้สึกแน่นท้องควรหลีกเลี่ยง

 

ขอบคุณที่มา: เกร็ดความรู้.net