เจ็บใจ..เสียเชิงชาย!! หนุ่มลำพูนเดินคอตกร้องศูนย์ดำรงธรรม โดนว่าที่เจ้าสาวหลอกเงินจัดแต่งงานครึ่งล้าน ก่อนหายแว๊บย้อนรอยแสบ "สาวน้ำมนต์ 2"

กลายเป็นเรื่องชวนปวดหัว คล้าย ๆ กับกรณี “สาวน้ำมนต์”   เมื่อหนุ่มลำพูนเดินคอตกเข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่  ขอความช่วยเหลือหลังถูกสาวคนรักหลอกเอาเงินและเตรียมแต่งงาน สูญเงินไปกว่า 4 แสนบาท   ที่สำคัญมีการตระเตรียมถึงขั้นลงทุนแจกการ์ดเชิญแขกไปแล้ว  แต่พอใกล้วันวิวาห์ฝ่ายสาวกลับขอเลื่อน  ก่อนจะตีตัวออกห่างและหายตัวไปซะงั้น !!

โดยกรณีนี้เกิดขึ้น  เมื่อนายทศพล ศิริ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/2 หมู่ 2 ตำบลหนองช้างคืน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน   ตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่  โดยมีนายเอกราช รังสรรค์ นิติกรชำนาญการประจำศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดเชียงใหม่  เป็นผู้รับเรื่องพร้อมตรวจสอบเอกสารการแจ้งความ  ประกอบด้วยหลักฐานการโอนเงิน ภาพพรีเวดดิ้ง ที่เป็นหลักฐาน  

พร้อมรับฟังความประสงค์ในการขอให้ช่วยเหลือติดตามตัวนางสาววราพร สักแก้ว อายุ 30 ปี อยู่ล้านเลขที่ 59 หมู่ 4 ตำบลท่าสาย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย หลังจากมีการนำเงินที่โอนผ่านธนาคารไปกว่า 4 แสนบาท เพื่อใช้ในการเตรียมแต่งงานไปก่อนหน้านี้แล้วหายไป  โดยได้มีการแจ้งความไว้แล้วแต่ปรากฎว่าคดีไม่คืบหน้า  จึงต้องมาขอให้ทางศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ช่วยติดตามเพราะทราบว่านางสาววราพรมาทำงานอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่

นายทศพล ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า   ตนเองเหมือนถูกหลอกจากนางสาววราพร ที่ใช้ฐานะการเป็นแฟนกันมายืมเงินไปตลอด 1 ปีที่คบหากัน  เนื่องจากความไว้ใจจึงโอนเงินไปให้และยังมีที่ไม่มีหลักฐานอีกส่วนหนึ่ง รวมไปถึงการเตรียมที่จะแต่งงานกันที่ต้องจ่ายเงินทั้งจองโรงแรม ถ่ายภาพ ทำการ์ด ชุดแต่งงาน ทำให้รวมเงินที่สูญเสียไปเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งตามกำหนดจะต้องแต่งานกันในวันที่ 15 ธันวาคม 2559 แต่ฝ่ายเจ้าสาวได้ขอเลื่อนไป  อ้างว่ายังไม่พร้อม ตนก็ยินยอมแต่ยังมีการยืมเงินต่อเนื่อง

จนมาช่วงระยะหลังเกิดผิดสังเกตอยู่ๆฝ่ายหญิงได้ตีตัวออกห่าง  แล้วก็หายไปติดต่อไม่ได้ มีการบล๊อกเฟสบุ๊ค บล๊อกเบอร์ บล๊อกทุกช่องทางการสื่อสารทุกอย่าง ไม่สามารถติดต่อได้ แต่มาทราบภายหลังว่า ยังพบว่านางสาววราพรนั้น ได้ทำพฤติกรรมเช่นนี้กับผู้ชายคนอื่นในลักษณะเดียวอีกหลายคนด้วย  

ทั้งนี้ การมาเรียกร้องครั้งนี้ต้องการให้ นางสาววราพร ออกมาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ทำและเพื่อไม่ให้ผู้ชายคนอื่นที่คาดว่าจะถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกันตกเป็นเหยื่อกับหญิงสาวรายนี้อีก หากใครที่ตกเป็นเหยื่อเหมือนกับตนก็ขอให้ออกมาร่วมกันดำเนินการทางกฎหมายด้วย

ด้านนายเอกราช  ได้รับเรื่องร้องเรียนพร้อมให้นายทศพลเขียนคำร้องในการขอความช่วยเหลือ ขณะเดียวกันในเบื้องต้นจะขอติดตามนางสาววราพร ไปตามที่อยู่จังหวัดเชียงราย เพื่อให้มาเจรจากันในเบื้องต้นที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องเงินดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมาเคยเกิดคดีในลักษณะเช่นนี้ แต่เป็นการกระทำกับฝ่ายชายเป็นจำนวนมาก  สำหรับกรณีของ  น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือน้ำมนต์ ผู้ต้องหาฉ้อโกง  หลอกลวงผู้ชายด้วยคำหวานอาบยาพิษจนหลงรักแต่งงานกัน  บางรายอ้างว่าท้องจนฝ่ายชายยอมแต่งงานด้วย และบอกว่าแท้งลูกภายหลัง  โดยเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าเริ่มหลอกลวงผู้ชายให้แต่งงานตั้งแต่ปี 2554 ถึงปี 2560  นับเป็นเวลา 6 ปี มีผู้ชายตกเป็นเหยื่อถึง 13 คน