"ตระกูลชินฯ"หมดท่า!! บทบู๊ จุดไม่ติดงัด"ดราม่า" หวังร้องขอความเห็นใจ?แฝงนัยยะสำคัญทางการเมือง!!?

การเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ หรือแนวความคิด วิสัยทัศน์ ทางการเมืองของครอบครัว “ชินวัตร” คงไม่เพียงพออีกต่อไป  พักหลังสังเกตได้ว่าทางครอบครัวชินวัตร จะเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวที่ เซนเซอร์ทีฟ เล่นกับความรู้สึก เรื่องราวความอ่อนไหวเชื่อมโยงไปถึงเรื่องครอบครัวอบอุ่นมากขึ้น   เปลี่ยนอารมณ์จากหนังแอคชั่น มาเป็น ดราม่า

 

ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ทางด้านเหล่าบรรดาลูกสาวของนายทักษิณ อย่าง “เอม พินทองทา” จู่ๆก็ออกมาโพสต์ภาพลูกสาวฝาแฝดวัยกำลังช่างพูดช่างคุย เอมิ – นานิผ่านอินสตาแกรมพร้อมข้อความว่า "จูงมือกัน รักกัน ดูแลกัน สองจิ๋วของแม่โตแล้ว … รู้สึกว่าลูกโตแล้วจริงๆตอนเค้าถามแม่ว่า “ทำไมไม่เคยเจอตาตาที่เมืองไทย? อยากให้ตาตากลับบ้านด้วย” … เด็กๆโตจนพูดรู้เรื่องแล้ว เช้าอีกวันถัดมา (อีก 1 วันที่เลวร้ายของครอบครัวของเรา) เด็กๆวิ่งไปกอดตาตาแล้วพูดว่า “ตาตาสู้ๆนะคะ!! ถ้าคนใจร้ายมารังแกตาตาเราจะปกป้องเอง!! เพราะเราแข็งแรง เอมคิดว่าตัดสินใจถูกที่พาลูกๆมาทริปนี้ นี่คือความตั้งใจของเอมและพี่พงศ์ที่มายาวในครั้งนี้ เพื่ออยู่กับตาตาในวันหนักๆ … (อีกวัน…) นี่คือคำว่าครอบครัวในแบบที่เอมโตขึ้นมา เรามีกันและกันเสมอ ทั้งในวันที่แดดออก และในวันที่ฝนตก มาเติมกำลังใจให้กันและกัน แล้วเราก็แยกย้ายกลับไปใช้ชีวิตของเรา ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดในทุกๆวัน #ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจที่มีให้ครอบครัวของเราเสมออยู่ข้างๆเราเสมอนะคะมีค่ามากจริงๆค่ะ"

ถัดมาแค่เพียงหนึ่งวันถึงคิวของด้านน้องสาวคนสุดท้อง”อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร”  ก็ได้โพสต์คลิปของหลานสาว ฝาแฝดอีกครั้ง ที่แสดงความใสของเด็กน้อยไร้เดียงสา ที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวความจริงทั้งหมด มีเพียงแต่ข้อมูลที่ได้รับเพียงด้านเดียวจากพี่ป้าน้าอา ในตระกูลชินวัตร  ซึ่งคลิปดังกล่าว  หลานๆได้ พูด “คุณตาสู้ๆ ไม่มีคนร้ายมาจับนะคะ” พร้อมข้อความบรรยายว่า.. ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธ์คุ้มครองตาตาทุกที่ที่ไปนะคะ เติมพลังใจซึ่งกันและกันเสร็จแล้ว ต่างคนก็ต่างไปทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่เคยชินสักทีกับการแยกย้ายกัน มันมีความเหงา ความห่วง ความคิดถึง ความเสียใจ อัดแน่นอยู่ในใจเสมอ ไม่มาอยู่ตรงนี้ คงไม่เข้าใจ ได้แต่คิดว่า โชคดีแค่ไหน ที่ยังได้ยินเสียงทุกครั้งที่อยากได้ยิน อยากกอดก็ยังบินมากอดได้ อยากขอบคุณจากใจ สำหรับคนที่ให้กำลังใจเห็นใจและรักครอบครัวเรามาเสมอ ขอบคุณคนที่หยุดคิดถึงหลักเหตุผล ทำใจเป็นกลาง และเข้าใจอะไรมากขึ้น ขอบคุณคนที่หลับหูหลับตาเกลียด พวกคุณทำให้เราเข้มแข็ง และรู้สึกโชคดีที่ได้รู้ว่าคนที่รักเรานั้น มีค่ามากจริงๆ 

 

ล่าสุดเป็นคิวของนายพานทอง แท้ชินวัตร พี่ชายคนโตจากบ้าน “ชินวัตร” ซึ่งจากการโพจต์ผ่านทาง  เฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra  เมื่อวันที่2 ธันวาคม  ที่ผ่านมา เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ทำนอง ครอบครัวชินวัตร อยากเลิกเล่นการเมือง ขอเพียงครอบครัวอบอุ่น โดยนระบุว่า...

 

  เป็นธรรมเนียมที่ทุกปี ผมจะต้องกราบคุณพ่อคุณแม่ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครับ

 

        10 กว่าปีที่ผ่านมา อาจไม่สามารถกราบคุณพ่อได้ตรงวัน แต่ผมก็จะต้องรีบไปกราบท่านทันที ที่มีโอกาสได้เดินทาง

 

        10 ปีผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ ผมและทุกคนในครอบครัว ยังยืนยันคำเดิมว่า เราเพียงแต่ต้องการชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นกลับคืนมา โดยที่ไม่มีคนหนึ่งคนใดในครอบครัว ต้องการที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกเลย..แม้แต่นิดเดียว

 

        ถ้าเป็นไปได้จริง จะเป็นของขวัญที่มีคุณค่ามากที่สุด สำหรับผมและครอบครัวครับ

"ตระกูลชินฯ"หมดท่า!! บทบู๊ จุดไม่ติดงัด"ดราม่า" หวังร้องขอความเห็นใจ?แฝงนัยยะสำคัญทางการเมือง!!?

 

ถ้าถอดรหัสคำพูดล่าสุดของนายพานทองแท้และครอบครัวชิน ที่แฝงด้วยนัยยะ 2 ประเด็นที่สำคัญและเป็นประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกันคือ คนในตระกูลชินวัตรจะเลิกเล่นการเมือง แต่ก็จะไม่รับผิดกับกระทำที่ก่อไว้ นั่นก็หมายความว่า ตระกลูชินวัตร ทั้งหมด แน่นอนตั้งรวมไปถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร น้องสาว ผู้มีชะตากรรมเหมือนพี่ชาย จะต้องไม่รับโทษทัณฑ์จากความผิดที่ตัวเองได้กระทำต่อบ้านนี้เมืองนี้ ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และประชาชนยอมรับไม่ได้

       

       ฉะนั้นสิ่งสำคัญ คือ หากคนตระกูลชินต้องการล้างมือทางการเมืองจริง ควรกลับมาสู่กัน ในระบบยุติธรรม ผิดว่าไปตามผิด ถูกก็ว่ากันไปตามถูก. ไม่ใช่ใช้การพูดผ่านสื่อสร้างกระแส เรียกร้องความสนใจ เหมือนเด็กไม่รู้จักโต