- 04 ธ.ค. 2560
ช่างคิดเสียเหลือเกิน!! หมวดเจี๊ยบ โหนกระแสตูน เล่นงานประยุทธ์ มัวแต่งอมือ งอเท้ารอเงินบริจาค เพื่อเอามาแก้ปัญหารัฐบาลถังแตก (รายละเอียด)
จากกรณี 4 ธันวาคม 2560 ภายใต้ “โครงการก้าวคนละก้าว” นำโดย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ "ตูน บอดี้สแลม" ดำเนินงานในโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เบตง - แม่สาย วันที่ 1 พ.ย. - 25 ธ.ค. 2560 ระยะทาง ระยะทาง 2,191 กม. เป็นที่ชื่นชมอย่างมากในขณะนี้ เพราะเรียกได้ว่าทำประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งตอนนี้ คณะทีมวิ่ง ก้าวคนละก้าว ได้วิ่งมากรุงเทพเป็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และวันนี้ก็ได้เป็นวันหยุดพักวิ่ง 1 วัน
ล่าสุด วานนี้ 3 ธ.ค. 2560 ร้อยโทหญิง สุนิสา เลิศภควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว เกี่ยวกับโครงการในครั้งนี้ว่า.. รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ควรงอมืองอเท้าเอาแต่รอเงินบริจาคของ ตูน บอดี้สแลมหรือคอยเกาะกระแสคนดังในสังคมเป็นพักๆ เพราะนั่นไม่ใช่การหารายได้เข้าประเทศที่ยั่งยืน
อันที่จริงรัฐบาลควรจัดระเบียบวินัยการเงินการคลัง และปรับปรุงวิธีการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาประเทศให้มีประสิทธิภาพ โดยควรตัดรายจ่ายที่ไม่เหมาะสมทิ้งไป
รายจ่ายที่ไม่จำเป็น ก็เช่น โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว มูลค่าเกือบ 600 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะมีราคาแพงแล้ว ยังไม่มีความจำเป็นจนทำให้สังคมต่อต้านการจัดซื้อดังกล่าว
ทั้งนี้ การยกเลิกการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วจะช่วยประหยัดเงินแผ่นดินไปได้เกือบ 600 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีเงินซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลของรัฐได้ โดยไม่ต้องรอให้ตูนหรือใครไปวิ่งให้เท้าเจ็บ
หากรัฐบาลใช้เงินให้เป็นและรู้จักหารายได้เข้ารัฐบ้าง ก็คงไม่ต้องนั่งรอเงินบริจาคเป็นครั้งคราวเพื่อเอามาแก้ปัญหารัฐบาลถังแตกอย่างนี้
ซึ่งหากรัฐบาลมีความจริงใจที่จะยกเลิกการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วราคาแพงดังกล่าวจริง ก็ต้องยกเลิกด้วย มติ ครม. เท่านั้น จึงจะมีผลตามกฎหมาย เพราะโครงการนี้ได้รับการเห็นชอบจาก ครม. และได้รับอนุมัติงบประมาณไปแล้ว
ดังนั้น ถ้าสังคมเผลอเมื่อไหร่ ก็คงมีมือดีแอบลงมือจัดซื้อแน่ๆ ที่สำคัญ ตอนนี้ ก็ปรับ ครม. กันเสร็จแล้ว รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องคงไม่ต้องระวังเก้าอี้ตัวเองจะโดนเลื่อยอีกต่อไป จึงอาจฉวยโอกาสในช่วงที่เรื่องเงียบ แล้วแอบดำเนินการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วราคาเครื่องละเกือบหนึ่งล้านบาทไว้ตรวจจับรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 320 ก.ม ต่อชั่วโมงตามถนนในชนบทที่มีแต่ท้องไร่ท้องนาซึ่งใช้ความเร็วไม่ได้เป็นแน่
เพราะรัฐบาลนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องไว้ใจไม่ได้อยู่แล้ว.