ระทึก!! กระแสน้ำแรงรถบัสพลัดตกถนนจมมิดคัน ยังไม่พบ 2 คุณยายที่หายไป ด้านชาวบ้านผวาฟ้าแดง หวั่นเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยแหลมตะลุมพุก ปี 2505

     จากกรณีที่รถบัสถูกกระแสน้ำที่ไหลจากเทือกเขาเชี่ยวกรากพลัดพาตกถนนจมมิดทั้งคัน บริเวณหน้าสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งภาคใต้บ้านเขาฝ้าย หมู่ 7 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่กู้ภัย และ ปภ. ตำรวจ-ทหารค่ายรบพิเศษสิชล  เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กู้ภัยและ ปภ.นครศรีธรรมราช สาขาสิชล สนธิกำลังช่วยเหลือผู้โดยสารรอดตายหวุดหวิด จำนวน 46 คน พร้อมคนขับอีก 1 คน รวมที่ช่วยรอดชีวิต 47 คน แต่ยังมีผู้สูญหายอีก 5 คน เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

     วันที่ 6 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กู้ภัย และ ปภ.นครศรีธรรมราช สาขาสิชล ยังระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายจากรถบัสอีก 5 คน ท่ามกลางความยากลำบาก เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากอีกทั้งฝนตกต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ได้ย่อท้อ สามารถค้นหาผู้สูญหายพบอีก 3 คน โชคดีที่ถูกกระแสน้ำพัดพาไปติดกับต้นไม้ใหญ่ห่างจากจุดเกิดประมาณ 100 เมตรเศษ ทั้งสามคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จึงนำมารวมกันที่ศาลาประชาคม ท่ามกลางความดีใจของเพื่อน ๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือรอดตายมาก่อนหน้านั้น  โดยทาง พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผบ.ค่ายฝึกรบพิเศษสิชล ได้นำผ้าขาวม้า ผ้าถุง เสื้อและผ้าห่มมาสนับสนุนกับทุกคนได้เปลี่ยนเสื้อผ้า  ในขณะที่แพทย์ รพ.สิชล ได้นำทีมเดินทางเข้ามาตรวจร่างกายผู้รอดชีวิตทุกคน พร้อมให้ยาป้องกันไข้หวัดและแก้โรคเชื้อรา

     นายยงยุทธ จิตสำรวย นายอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รายงานเหตุการณ์ล่าสุดกรณีรถบัสถูกกระแสน้ำพลัดพาจนตกถนนจมมิดทั้งคั้นให้นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชทราบว่าจากเหตุการณ์รถบัสถูกกระแสน้ำเชี่ยวพลัดตกข้างทางจมหายทั้งบริเวณถนนสาย 401 นครศรีธรรมราช -สุราษฎร์ธานี นั้น ก่อนเกิดเหตุนายวิสรรค์ แขวงเมฆ คนขับรถบัส หมายเลขทะเบียน 10-009 สุราษฎร์ธานี ได้รับการจ้างเหมามางานศพที่บ้านสองแพรก หมู่ที่ 2 ต.โพธิ์ทอง อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมผู้โดยสาร 51 คน รวมคนในรถทั้งคนขับจำนวน 52 คน หลังจากเสร็จจากการร่วมงานศพได้เดินทางกลับ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี ระหว่างเดินทาง ถึงบริเวณหน้าสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งภาคใต้ฯ ถนนนครศรีธรรมราช  -สุราษฎร์ธานีหมู่ 7 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งถูกน้ำท่วมถนนสูงประมาณ 1 เมตร เจ้าหน้าที่ได้ปักป้ายเตือนน้ำท่วมเส้นทางและเตือนให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง  จนกระทั่งรถเกิดเสียหลักลงไหล่ถนนและได้ถูกกระแสน้ำพัดตกข้างทาง

     เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาคนขับและผู้โดยสารได้ช่วงแรก 47 คนสูญหายไป 5 คน ต่อมาพบอีก 3 คน รวมเป็น 50  คน ยังสูญหายหาไม่พบอีก 2 คน ประกอบด้วย นางมณี คำแก้ว อายุ 63 ปี และ นางจันทร์ คำแก้ว อายุ 68 ปี เจ้าหน้าที่ยังระดมกำลังค้นหาอย่างต่อเนื่อง  โดยนำผู้ประสบภัยทั้งหมดมาพักพิง ณ หอประชุมอำเภอสิชล  จัดเสื้อผ้า อาหาร และแพทย์มาทำการตรวจร่างกายรักษาอาการบาดเจ็บทั้ง 49 คนอาหกหารปลอดภัย

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่าฝนยังคงตกหนัก ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เวลา 01.00 น.และขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ส่วนในพื้นที่เกือบทุกอำเภอ อาทิ ขนอม สิชล ทาศาลา พรหมคีรี นบพิตำ น้ำไหลบ่าเข้าท่วมในตัวอำเภอและตลาดของแต่ละอำเภออย่างรวดเร็ว ประชาชนไม่กล้าหลับนอนเกรงน้ำจะทะลักท่วมโดยไม่รู้ตัว ในขณะเดียวกันเป็นที่น่าสังเกตว่าในขณะที่ฝนตกแม้จะเป็นช่วงกลางคืน ต้องฟ้าทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทะเลอ่าวไทยกลับมาสีแดงระเรื่อ สร้างความแตกตื่น หวาดกลัวให้กับคนเฒ่าคนแก่เป็นอย่างมาก โดยระบุว่าท้องฟ้าสีแดงในขณะที่ฝนตกหนักคล้ายกับช่วงเหตุการณ์วิปโยคอุทกภัย วาตภัยที่แหลมตะลุมพุกเมือปลายปี 2505 ซึ่งความคืบหน้าจะรายงานต่อไป.  

 

ภาพ.ปภ.สิชล/กู้ภัยสิชล/ศบก.นครศรีธรรมราช

ยุทธนะ เตมะศิริ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครศรีธรรมราช