ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

จากกรณีที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ.  นำโดย พ.ต.อ.ประเสริฐ ศรีสตาศัย ซึ่งได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมายศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ.  ได้นำกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือแรงงานประมงชาวเมียนมาจำนวน 3 คน ที่ร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ LPN ขอให้ช่วยเหลือออกจากเรือประมงศักดิ์รุ่งโรจน์ 2 และศักดิ์รุ่งโรจน์ 9 ที่ถูกนายจ้างนำมาจอดทิ้งไว้กลางทะเลกว่า 20 วัน และไม่ได้รับค่าจ้าง จึงอยากกลับบ้านที่ประเทศเมียนมา โดยหลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือนำตัวลูกเรือประมงทั้ง 3 คนประกอบด้วยนายกูโตซอ นายหวัน และนายมินมินโท จึงนำกำลับเข้าฝั่งแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

                (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่าเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้นายตระกูล หนูนิล ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายกิตติพันธ์ เพชรชู นายอำเภอขนอม แต่งตั้งปลัดอาวุโสปฺนผู้แทนฝ่ายปกครองเข้าร่วมในการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิดด้วย ซึ่งการสอบสวนแรงงานเมียนมาทั้ง 3 คนให้การในเบื้องต้นนายกูโตซอ อ้างว่าลงมาทำงานเป็นลูกเรือประมงไม่ได้ค่าจ้างมานาน 7 เดือนแล้ว ก่อนถูกนำมาจอดทิ้งไว้กลางทะเลกว่า 20 วัน ส่วนนายหวัน อ้างว่าไม่เคยได้รับค่าจ้างมานานกว่า 40  เดือน หรือกว่า 3 ปีแล้ว จึงตัดสินใจเรียกร้องขอความช่วยเหลือและขอเงินค่าจ้างตามกฎหมาย ในขณะที่นายมินมินโท อ้างว่าไม่ได้ค่าจ้างมานาน 7 เดือนจึงอยากกลับบ้านที่ประเทศเมียนมา เนื่องจากแม่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ ฯ ได้ทำการตรวจสอบเอกสารประจำเรือ และเอกสารแรงงานต่างด้าวพบว่ามีถูกต้อง จึงรับแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 คนกลับเข้าฝัง ในขณะที่ส่วนลูกเรือประมงอีก 6 คนขออยู่ในเรือประมงเหมือนเดิม

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ในขณะที่นายจักริน บุญอรุณรักษา อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 8 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของเรือประมงทั้ง 2 ลำ ซึ่งเป็นนายจ้าง มาสอบสวนปากคำต่อหน้าเจ้าพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนายจักริน เจ้าของเรือให้การรับสารภาพว่าเรือประมงทั้งสองลำเป็นตนและลูกเรือประมง 9 คนเป็นลูกเรือประมงทั้งสองลำของตนจริง โดยนายกูโตซอ สัญชาติเมียนมา ประจำเรือ ส.ศักดิ์รุ่งโรจน์ 2 เริ่มทำงานวันที่ 8 มิ.ย. 2560 ส่วนนายหวัน สัญญาณเมียนมา ประจำเรือ ส.ศักดิ์รุ่งโรจน์ 8  เริ่มทำงานวันที่ 1 ตุลาคม 2559 และนายมินมินโท สัญชาติเมียนมา เริ่มทำงานวันที่ 26 มิ.ย. 2560  โดยมีเงื่อนไขตกลงค่าจ้างเป็นรายวัน ๆ ละ 300 บาท จะจ่ายทุก 12-13 วันเมื่อเรือเข้าฝั่ง และมีการลงลายมือชื่อรับเงินทุกครั้ง โดยที่ผ่านมาทั้ง 3 คนเบิกเงินไม่เท่ากันบางคนเบิกค่าจ้างหมดไปเลยบ้าง เบิกเกินบ้าง บางคนก็เหลือไว้กับนายจ้างเพื่อส่งกลับไปให้ทางบ้านในประแทศเมียนมา  สำหรับการเบิกเงินนายกูโตซอ เบิกไปแล้ว 30,439 บาท เบิกครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2560  นายหวันเบิกรวม 76,660 บาท เบิกครั้งสุดท้ายวันที่ 9 ธ.ค. 2560 และนายมินมินโท เบิกไปแล้วรวม 33,446 บาท เบิกครั้งสุดท้ายวันที่ 9 ธ.ค. 2560  และค่าแรงทั้งหมดยังไม่แน่ใจว่าจะมีเหลือค้างอยู่อีกบ้างหรือไม่เพราะยังไม่ได้ทำการตัดบัญชี ซึ่งจะตรวจสอบและแจ้งให้ทราบต่อไป หากพบว่ายังมีค้างอยู่จริงก็พร้อมจะจ่ายให้ลูกจ้างทั้ง 3 คนทันที

                สำหรับกรณีที่ร้องเรียนว่ามีการปล่อยให้ลอยลำอยู่กลางทะเล เนื่องจากวันทำการประมงตามระเบียบกฎหมายของตนหมด ไม่สามารถออกทำประมงได้อีกและบริเวณพื้นที่ท่าเทียบเรือของตนไม่สามารถจอดเรือประมงทั้งหมดได้เพียงพอ เพราะจะทำให้ขวางร่องน้ำ จึงจำเป็นต้องนำเรือประมงออกไปทิ้งสมอจอดนอกฝั่ง โดยให้ลูกเรือทั้ง 9 คนเป็นผู้ดูแลเรือประมง และในเรื่องการขอกลับบ้านที่ประเทศเมียนมา ทางลูกเรือไม่เคยแจ้งให้ทราบมาก่อน ยกเว้นนายหวัน ที่เคยขอกลับบ้านในประเทศเมียนมา 1 ครั้งเนื่องจากประสบอุบัติเหตุแขนหัก ตนได้ทำการรักษาจนหายเป็นปกติและทำการตัดบัญชีเพื่อนำค่าแรงที่เหลือให้กับนายหวันเดินทางกลับบ้าน แต่เนื่องจากค่าแรงเหลือน้อยนายหวัน จึงขอทำงานต่อ ดังนั้นการโทรศัพท์ไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่าถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ไม่ได้รีบค่าจ้าง จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

                นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพได้เชิญนายเฉลิม จันดี อายุ 44 ปี ลูกเรือประมงสัญชาติลาวซึ่งมีนายจ้างคนเดียวกันมาสอบสวนปากคำเพื่อประกอบเป็นหนักฐาน โดยนายเฉลิม ให้การว่าเข้ามารับจ้างทำงานเป็นลูกเรือประมงในประเทศไทยเออายุ 15 ปี ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในประเทศไทยตามมติ ครม.วันที่ 30 ก.ย. 2560 ไปจนถึงวันที่ 24 ต.ค. 2570  ครั้งแรกทำงานในสวนสับปะรดที่ ต.ประจวบคีรีขันธ์ และมาทำสวนยางพาราที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร และเป็นลูกเรือประมงที่ จ.เพชรบุรี  ล่าสุดมาอยู่กับนายจักรินทร์ บุญอรุณรักษา ได้ 2 ปี ตอนตกลงค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท แต่ตนขอเบิกแค่เที่ยวละ 500 บาท และไม่เคยตัดบัญชีค่าจ้างให้นายจ้างเก็บไว้ให้ เพราะตนเองไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้วไม่เคยถูกข่มขู่บังคับ ให้ทำงาน หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด ในเรือมีเวลาผักผ่อนครั้งละ 3-4 ชม. แต่ในช่วงที่เรือประมงหมดเวลาทำงานและเกิดการร้องเรียนกันขึ้นจะขอเบิกเงินค่าแรงจากนายจ้างไปเที่ยวพักผ่อนและจะกลับมาทำงานกับนายจ้างคนเดิมอีก

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ต่อมาทางศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ.  และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เจาหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันทำบันทึกข้อความสรุปผลการสอบสวนในกรณีดังกล่าวพร้อมลงชื่อกำกับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร สรุปว่าเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนไม่เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะคดีค้ามนุษย์แต่อย่างใด ลูกเรือทั้ง 3 คนที่ร้องเรียนเข้ามาทำงานถูกต้องตามกฎหมายไม่มีพฤติกรรมถูกหลอกลวงหรือบังคับขู่เข็ญหรือกระทำอย่างอื่นโดยมิชอบ ทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพได้พิจารณาร่วมกันแล้วเห็นว่าไม่มีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกฎหมายแต่อย่างใด

                โดยนายตระกูล หนูนิล ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตามที่ได้มอบหมาย/ปลัดอาวุโส ผู้แทนฝ่ายปกครอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวน สภ.ขนอมและฝ่ายสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องสรุป ว่าจากการสอบสวนและสัมภาษณ์ลูกเรือประมงสัญชาติเมียนมา  3 คน เข้ามาทำงานเป็นลูกเรือประมงโดยถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีพฤติกรรมถูกหลอกลวงหรือถูกบังคับขู่เข็ญหรือกระทำอื่นโดยมิชอบ และเห็นว่าไม่เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ แต่ทั้ง 3 คน มีความประสงค์จะกลับประเทศ โดยนายจ้างได้คิดบัญชีค่าแรงค้างจ่ายให้ตามข้อตกลงและมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ LPN จะรับผิดชอบในการส่งกลับประเทศต่อไป  สำหรับลูกเรือประมงที่เหลืออีก 6 คน มีความประสงค์จะอยู่ทำงานกับนายจ้างคนเดิมต่อไปรายละเอียดตามบันทึกรายงานสรุปผลการสอบสวนสัมภาษณ์ และในขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันตรวยสอบในเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนได้แยกย้ายเดินทางกลับแล้ว และทางจังหวัดนครศรีธรรมราช จะได้รายงานหน่วยเหนือทราบต่อไป

                ทางด้านนายจักรินทร์ บุญอรุณรักษา เจ้าของเรือประมง ส.ศักดิ์รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ปัญหาเกิดจากการที่กำหนดให้ทำประมงปีละ 220 วัน เมื่อผู้ประกอบการหมดวันทำประมงก็ต้องรับภาระค่าแรงของลูกเรือประมงทั้งหมด โดยเรือประมงของตนไม่สามารถนำกลับเข้ามาเทียบท่าเรือประมงได้ทั้งหมดเพราะขวางร่องน้ำ จึงต้องนำเรือออกไปทอดสมอจอดนอกฝั่ง และให้ลูกเรือประมง 9 คนอยู่บนเรือเพื่อดูแลเรือประมง เพื่อรอการขอนุญาติขอวันทำการประมงรอบใหม่ในปีหน้า  และในช่วงที่ไม่สามารถออกจับปลากลางทะเลตามปกติได้ทำให้ลูกเรือเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในการทำงานเพราะต้องหยุดทำงานถึง 5 เดือน จึงอาจจะอยากกลับบ้านเพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องอยู่ในเรืออีกนานเท่าไหร่จึงโทรศัพท์ไปร้องเรียนดังกล่าว อยากจะเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันท์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแก้ปัญหาเพิ่มระยะเวลาการทำประมงอีก 70-80 วัน หรือปีละไม่เกิน 300 วัน หากเป็นเช่นนี้อาชีพประมงเสียหายและคงจะอยู่ไม่ได้ อาชีพประมงคงหายไปจากเมืองไทยอย่างแน่นอน  เพราะในช่วงหมดวันทำประมงนานถึง 5 เดือนนายจ้างคงแบกรับภาระค่าแรงงานลุกเรือประมงไม่ไหวแน่ โดยในวันพรุ่งนี้นายกสมาคมประมงขนอมจะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อยื่นเรื่องขอให้นายกรัฐมนตรีใช้ ม. 44 แก้ปัญหาโดยเพิ่มวันทำประมงเป็นปีละไม่เกิน 300 วัน.

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ไม่ใช่ค้ามนุษย์!!สหวิชาชีพร่วมพิจารณากรณี ศปมผ.บุกช่วย 3ลูกเรือประมงเมียนมากลางทะเลขนอมไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ ร้องวันทำประมงปีละ 220 วันทำป่วน

ภาพ/ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ข่าว /ยุทธนะ เตมะศิริ   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครศรีธรรมราช