เปิดตำนาน "ระฆังอาถรรพ์โบราณ" อายุ 109 ปี ในโรงพักแห่งหนึ่ง ทำไม?ตำรวจถึงไม่กล้าเคาะ

ติดตามรายละเอียด FB: DEEPS NEWS

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (22 ธ.ค.) ที่ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงพักที่ย้ายมาสร้างใหม่ที่ริมถนนสายท่าศาลา-สิชล หมู่ 3 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา ซึ่งมีระฆังโบราณตั้งอยู่ที่โรงพัก เป็นระฆังที่มีอายุ 109 ปี เป็นระฆังที่อยู่คู่กับโรงพักมาตั้งแต่สมัยที่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2451 โดยในสมัยนั้นมี ส.ต.อ.ยกเอี้ยน คงทน เป็นหัวหน้าโรงพักท่าศาลาคนแรก เดิมโรงพักอยู่ข้างที่ว่าการอำเภอ แต่ได้ย้ายมาอยู่แห่งใหม่ปี 2531 ย้ายมาพร้อมระฆังใบนี้ ซึ่งหากนับรวมแล้วระฆังใบนี้มีอายุถึง 109 ปีแล้ว

และว่ากันว่าระฆังโบราณลูกดังกล่าวนั้นมีอาถรรพ์ โดยเมื่อมีใครไปเคาะระฆังให้สัญญาณหรือทำใดๆให้ระฆังเสียงดังจะก่อให้เกิดเหตุเพศภัยทุกครั้ง จนไม่มีใครกล้าเคาะมาจนถึงปัจจุบัน แต่มีวิธีป้องกันของตำรวจคือได้นำผ้าขาวมาผูกห่อหุ้มปิดลูกตุ้มเคาะระฆังเพื่อไม่ให้กระทบกับตัวระฆังไม่ให้มีเสียงดังเกิดขึ้น เพราะหวั่นกันว่าถ้ามีเสียงระฆังดังขึ้นจะมีเหตุร้าย หรือมีคดีร้ายแรงเกิดขึ้นในพื้นที่

 

เปิดตำนาน "ระฆังอาถรรพ์โบราณ" อายุ 109 ปี ในโรงพักแห่งหนึ่ง ทำไม?ตำรวจถึงไม่กล้าเคาะ

ตำรวจหลายนายยืนยันตรงกันว่าตั้งแต่มาประจำการที่โรงพักกว่า 10 ปี ไม่เคยเห็นใครไปเคาะระฆังที่ติดตั้งอยู่ที่เสาด้านหน้าเคาน์เตอร์สิบเวรของโรงพัก และไม่มีใครกล้าเคาะด้วย เพราะเกรงว่าจะเป็นไปตามที่มีการเล่าลือกัน และไม่มีใครกล้าที่จะเสี่ยงเคาะระฆังลูกนี้เลย และก่อนหน้านี้เคยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงมาที่โรงพักถามว่า “ทำไมไม่ตีระฆัง” จึงต้องอธิบายถึงความเชื่อดังกล่าวจนผู้บัญชาการเข้าใจ คือไม่เชื่ออย่าลบหลู่

ส่วนที่ห้องประชุม สภ.ท่าศาลา ได้นำภาพ ส.ต.อ.ยกเอี้ยน คงทน หัวหน้าโรงพักท่าศาลาคนแรกมาปิดไว้ และยังมี “พระนางตรา” พระประจำโรงพักท่าศาลาตั้งอยู่ในห้องผู้กำกับ ซึ่งเล่าต่อๆ กันมาว่า สมัยที่พื้นที่ยังเป็นสีแดงเนื่องจากเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของคอมมิวนิสต์จะเข้าโจมตีโรงพักช่วงกลางคืน แต่พอไปถึงได้เห็นตำรวจเต็มโรงพักจึงต้องล่าถอย ทั้งๆ ที่ความจริงมีตำรวจเข้าเวรแค่ 3-4 คน จึงเชื่อกันว่าความศักดิ์สิทธิ์ของพระนางตราทำให้คอมมิวนิสต์ไม่เคยมาโจมตีโรงพักแม้แต่ครั้งเดียว

ร.ต.ท.บุญส่ง สุดทองคง อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.ท่าศาลา ซึ่งได้เกษียนราชการไปแล้ว และเคยประจำการอยู่ทั้งโรงพักเก่าและโรงพักใหม่ ได้กล่าวถึงระฆังโบราณว่า ระฆังโบราณลูกนี้อยู่ประจำโรงพักมาตั้งแต่ก่อตั้งโรงพักเมื่อปี 2451 รวมแล้ว 109 ปี ซึ่งสมัยก่อนตำรวจจะตีระฆังบอกเวลา 1 ชั่วโมงจะตี 1 ครั้ง เพื่อบอกเวลาให้กับตำรวจ และชาวบ้าน หรือเรียกตำรวจเมื่อผู้บังคับบัญชามาเยี่ยมโรงพัก

“สิ่งที่เขาเชื่อกันว่าเมื่อตีระฆังแล้วมีเหตุการณ์ร้ายนั้น เป็นความเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่โรงพักอยู่ที่เก่า ตนเป็นคนตีระฆังมาตลอด ตีจนระฆังแตกแล้วนำไปหลอมใหม่ แต่ระยะหลังไม่ค่อยมีการตีระฆังกันแล้ว อาจจะเป็นความบังเอิญเมื่อมีคนมาตีระฆังแล้วเกิดมีเหตุร้ายฆ่ากันตาย หรือมีเหตุอะไรก็แล้วแต่ เกิดตรงกันพอดี ทำให้เชื่อกันว่าพอมีเสียงตีระฆังดังทำให้เกิดเหตุร้าย”

ร.ต.ท.บุญส่ง กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านั้นที่โรงพักเก่า ตนเข้าเวรยามที่ สภ.ท่าศาลา เมื่อถึงเวลาต้องตีระฆังลูกนี้ 1 ชั่วโมงตี 1 ครั้ง ถ้าเป็นไปตามที่เล่าลือกันว่าพอตีระฆังแล้วมีเหตุคนตาย ถ้าเป็นเช่นนั้นคงตายกันหมดทั้งเมืองแล้ว คิดว่ามันอยู่ที่สถานที่มากกว่า เพราะสถานที่ตั้งโรงพักในปัจจุบันเจ้าที่แรง ต้องตั้งศาลพระภูมิและต้องกราบไว้ไหว้ทุกวัน ถ้าใครทำไม่ดีจะรับโทษเหมือนกัน แต่ยอมรับว่าถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าตีระฆังใบนี้