จะรอดหรือไม่!!.."โอ๊ค พานทองแท้" ปมฟอกเงินกรุงไทย DSIส่งฟ้องอัยการ จับตาปีหน้า..ก่อนคดีจะหมดอายุความ!!??

จะรอดหรือไม่!!.."โอ๊ค พานทองแท้" ปมฟอกเงินกรุงไทย DSIส่งฟ้องอัยการ จับตาปีหน้า..ก่อนคดีจะหมดอายุความ!!??

เมื่อวันที่26 ธ.ค.  เวลา 10.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วยคณะ ร่วมแถลงผลงานที่น่าสนใจรอบปี 2560 และเป้าหมายภารกิจในปี 2561  

ซึ่งในปี 2560 ดีเอสไอมีการดำเนินคดีพิเศษจำนวน 291 คดีและสอบสวนเสร็จสิ้นจำนวน 124 คดี ซึ่งเกินจากเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 120 คดี สำหรับมูลค่าความเสียหายที่สามารถเรียกคืนหรือรักษาผลประโยชน์ให้แก่รัฐและประชาชนในปี 2560 จำนวนกว่า 107,220.82 ล้านบาท จาก 84 คดี ซึ่งเกินจากค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อรวมคดีตั้งแต่ปี 2547-2560 รับเป็นคดีพิเศษ 2,382 คดี สอบสวนเสร็จ 1,997 คดี ส่งพนักงานอัยการ 1,601 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 385 คดี ส่ง ป.ป.ช.134 คดี ส่ง ป.ป.ท. 3 คดี และเปรียบเทียบปรับ 259 คดี เรียกคืนหรือรักษาผลประโยชน์ของรัฐกลับมาได้ 352,680 ล้านบาท

และสำหรับผลคดีพิเศษที่สำคัญ โดยทาง ดีเอสไอ ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 คดีที่มีผู้สนใจติดตามมากที่สุด นั้นก็คือ คดีฟอกเงินผู้บริหารธนาคารกรุงไทย (จำกัด) มหาชน ปล่อยกู้เครือบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่ง ดีเอสไอ รับไว้ 2 คดี คือ 1.ความผิดฐานฟอกเงิน คดีนี้สอบสวนเสร็จและมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 13 คน ได้ส่งพนักงานอัยการตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2560 ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานชั้นอัยการ และ 2.กรณีสำนักงานปปง. ร้องทุกข์กับนายพานทองแท้ ชินวัตร และพวกรวม 4 คน ที่รับโอนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในการปล่อยกู้ จำนวน 10 ล้านบาท และ 26 ล้านบาท ในข้อหาสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว โดยขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังเร่งดำเนินการ ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในกลางปี 2561 ซึ่งก่อนผลคดีจะหมดอายุความฟ้อง

 

 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยระหว่างแถลงผลงานของดีเอสไอ ช่วงหนึ่งว่า ...

“ส่วนกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร กับพวกรวม 4 คน ที่รับเช็คจากกลุ่มกฤษดานคร และถูกดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินด้วยนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้นำเตรียมข้อเรียกร้องของนายพานทองแท้ ว่าไม่เข้าข่ายข้อหาฟอกเงินเข้าที่ประชุม และกำลังรวบรวมสำนวนคดีส่งฟ้องอัยการตามขั้นตอน ขอยืนยันว่าดีเอสไอทำตามพยานหลักฐาน และกฏหมาย อย่างตรงไปตรงมา”