งานเข้าครับท่าน..!! พิษร่วมโต๊ะกินข้าว “เสก โลโซ” ผู้การเมืองคอนเด้ง ผกก.สืบจังหวัด - สวป.สภ. พร้อมออกชี้แจงบริสุทธิ์ใจและน้อมรับคำสั่ง!?

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 5 ม.ค.2561 พล.ต.ต.วันไชย  เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าในขณะนี้ตนได้ได้มีคำสั่งย้ายด่วน พ.ต.อ.รังสรรค์  สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.ธีระพล  พุ่มชัย สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ไปประจำ ศปก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิมจนกว่าผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการสอบสวนไม่นาน ทั้งนี้ในคำสั่งดังกล่าวยังให้ พ.ต.ท.ปรัชญา จันทร์สมวงศ์ รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ทำหน้าที่รักษาการแทน ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช แทน พ.ต.อ.รังสรรค สุขเกื้อ จนกว่าผลสอบสวนจะเสร็จสิ้น

                สำหรับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทางตนได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.สมเกียรติ ร่มโพธิ์ขวัญ ผกก.สอบสวน ภ.จว.นครศรีธรรมราช เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในครั้งนี้แล้วด้วย โดยจะรีบสรุปผลสอบสวนข้อเท็จจริงมายังตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไปซึ่งในเวลาในการสอบสวนไม่นาน พล.ต.ต.วันไชย กล่าว

พ.ต.อ.รังสรรค์  สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ความจริงตนกับเสกไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวกันมาก่อนเลย คืนวันเกิดเหตุตนพร้อมลูกน้องตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชได้เข้าไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร”บ้านสวน” เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว และก็พบว่า”เสก โลโซ”และคณะจำนวนหนึ่งได้เข้าไปนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารเดียวกันอยู่ก่อนหน้าที่ตนจะเดินทางไปไปถึงตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจอะไรนั่งกันคนละโต๊ะ

                “แต่ปรากฏว่าสักพักได้มีเจ๊ดา เจ้าของร้านที่รู้จักกับตน ได้เข้ามาเชิญตนให้ไปพบพูดคุยกับเสก โลโซที่โต๊ะของเสก โดยเสก มีการพูดคุยถึงเรื่องที่จะจัดคอนเสิร์ตหารายได้ให้กับตำรวจ สภ.พรหมคีรี และเสกยังเชิญให้ตนเป็นประธานจัดงานคอนเสิร์ตด้วย ซึ่งตนก็ได้ตอบปฏิเสธไปเพราะทาง บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชไม่มีนโยบายหาเงินให้ตำรวจ จากนั้นตนและเสก ก็คุยเรื่องสัพเพเหระต่าง ๆอยู่ประมาณเกือบ 30 นาที ก่อนที่เจ๊ดา เจ้าของร้านอาหารมาขอให้ตนถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับเสกและคณะ ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร ก่อนที่จะเดินกลับไปนั่งโต๊ะอาหารของตนรับประทานอาหารกับลูกน้องตามปกติก่อนเดินทางออกจากร้านอาหารในเวลา 4 ทุ่มเศษ ตนไม่นึกเลยว่าเรื่องนี้จะทำให้ตนซวยจริง ๆ เลย ซึ่งตนเตรียมจะเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของ บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชต่อไปแล้ว พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ธีระพล  พุ่มชัย สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้าไปในร้านอาหารอีสานบ้านสวนเมื่อเวลาประมาณ3ทุ่มเศษคืนวันที่3 ม.ค.2561 เพราะทราบข่าวว่าคณะของ”เสก”มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารดังกล่าว ตนในฐานะ สวป.เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบของตน หากไม่ไปสอดส่องดูแล อาจเกิดเหตุซ้ำซ้อนจากเสก ซึ่งใครก็รู้ว่าสุ่มเสี่ยงที่เสกจะทำอะไรตามสไตล์ในพื้นที่ก็ได้  หรือมีความรุนแรงจากคนในพื้นที่ซึ่งไม่พอใจและโกรธแค้นเสกโลโซก็ได้  ตนจึงเข้าไปเพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องปรามเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยมีตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้ง อส.ตร.ไปร่วมปฏิบัติหน้าที่นอกร้านอาหาร 

“ทางร้านได้เชิญตนเข้าไปในร้านและแนะนำตนรู้จักกับเสก ซึ่งตามปกติไม่เคยรู้จักกับเสกเป็นการส่วนตัวมาก่อน แต่ทำไปตามหน้าที่และที่สำคัญตนไม่ได้มีหน้ารับผิดชอบในเรื่องคดีของเสก ใด ๆ เลยที่อาจจะมองว่าเป็นการเข้าด้วยช่วยเหลือผู้ต้องหา แต่นิดเดียว แต่การที่ ผกก.รังสรรค์ และตนอยู่ในร้านอาหาร น่าจะเป็นการป้องปราบไม่ให้เกิดเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จนมีการถ่ายรูปหมู่โดยมีตนอยู่ด้วย ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตน แม้แต่ช่วงที่เสกไปที่วัดพระมหาธาตุ ศาลหลักเมือง วัดประดู่ วัดแจ้ง ตนก็นำผู้ใต้บังคับบัญชาติดตามไปด้วย  เพราะหากมีเหตุอะไรขึ้นกับเสก ตำรวจในพื้นที่โดยเฉพาะตนคงจะถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิหรือลงโทษได้ที่ไม่ดูแล ป้องกันรักษาความสงบเรียบร้อย  แต่เมื่อผู้บังคับบัญชามองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาสม ขัดคำสั่งและลงโทษด้วยการย้ายตนก็ยอมรับได้ และพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด พ.ต.ท.ธีระพล กล่าวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาของตำรวจทั้ง 2 นายต่างเดินทางไปให้กำลังใจและโพสต์แสดงความเสียใจ ให้กำลังใจ พ.ต.อ.รังสรรค์ และ พ.ต.ท.ธีระพล ผ่านทางโลกโซเชี่ยลอย่างกว้างขวาง เนื่องจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทั้งสองนายมีผลงานการปฏิบัติหน้าที่โดดเด่นเป็นที่ยอมรับของคนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในขณะที่มีการกล่าวตำหนิเสก ที่ชอบโพสต์ภาพและข้อความต่าง ๆ แม้ตัวเองจะอยู่ในสถานะของผู้ต้องหาที่กระทำความผิดหลายข้อหา รวมทั้งคดียาเสพติดจนส่งผลกระทบกับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เมื่อมาถูกคำสั่งย้ายอาจจะเสียกำลังใจ ที่สำคัญจะส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยในภาพรวมของเมืองนครศรีธรรมราชได้  และมองว่า “เสก โลโซ” เป็นมนุษย์มหาภัย”ตัวจริง.

ภาพ/ข่าว ยุทธนะ เตมะศิริ   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครศรีธรรมราช