- 06 ม.ค. 2561
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
เจ้าฟ้าชายโสริยะวงศ์สว่าง (พระโอรสองค์สุดท้ายในสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ) สิ้นพระชนม์
เจ้าฟ้าชายโสริยะวงศ์สว่างทรงเป็นพระโอรสองค์เล็กในสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนากับพระอัครมเหสีเจ้าหญิงคำผูย
หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศลาวพระองค์ทรงลี้ภัยไปประทับยังกรุงปารีสโดยใช้ชีวิตแบบสามัญชน แต่พระองค์ก็ยังทรงได้รับความเคารพนับถือจากชาวลาวในต่างประเทศดังจะเห็นได้จากพิธีถวาย
พระราชบายศรีหลวงที่สมาคมฟ้างุ้มจัดขึ้นถวายทุกปีนอกจากนี้พระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานพระญาติวงศ์ราชวงศ์ล้านช้างร่มขาว
เจ้าฟ้าชายโสริยะวงศ์สว่างสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ.2561 ณ กรุงปารีส พระชนมายุ 81 พรรษา
อย่างที่หลายๆท่านทราบกันดีว่า พระมหากษัตริย์หรือที่คนลาวเรียกกันว่า “พระเจ้ามหาชีวิต” องค์สุดท้ายของลาวนั้นคือพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา และองค์ราชินีคู่พระบารมีคือ พระอัครมเหสีคำผูย
ทั้งสองพระองค์มีพระราชโอรส-ธิดาร่วมกันทั้งสิ้น 5 พระองค์ ได้แก่
-องค์มกุฎราชกุมารวงศ์สว่าง
-เจ้าฟ้าชายศรีสว่าง
-เจ้าฟ้าชายโสริยวงศ์สว่าง
-เจ้าฟ้าหญิงฉวีวรรณสว่าง มังคละมณีวงศ์
-เจ้าฟ้าหญิงดาราสว่าง ศรีสุภานุวงศ์
พ.ศ. 2518 ราชอาณาจักรลาวเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบราชาธิปไตย ไปสู่ระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ราชบัลลังก์ลาวถูกยกเลิก สมาชิกราชวงศ์ถูกถอดออกจากฐานันดร
บรรดาประชาชน พ่อค้าชาวขาย นักการเมืองนับล้านคน อพยพหนีคอมมิวนิสต์ออกนอกประเทศ ทว่าพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่หลายพระองค์ยังคงประทับอยู่ในลาว รวมทั้งอดีตกษัตริย์ พระราชินี
องค์มกุฎราชกุมาร พระราชโอรส เจ้าฟ้าชายพระอนุชาในพระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยสมาชิกครอบครัว
หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีความพยายามจากฝ่ายราชอาณาจักรทูลเชิญอดีตสมาชิกราชวงศ์ให้เสด็จลี้ภัย รวมทั้งการต่อต้านรัฐบาลคอมมิวนิสต์ด้วยกำลังทางทหารอยู่หลายครั้งแต่ผลลัพธ์กลับเป็นลบ
ย่างเข้าปีที่ 2 แห่ง ”การปลดปล่อย” สมาชิกราชวงศ์ถูกเชิญตัวไปยังค่ายสัมนา เพื่อเรียนรู้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพการณ์ใหม่ตามนโยบายของรัฐบาล
อดีตกษัตริย์ พระราชินี องค์มกุฎราชกุมาร เจ้าฟ้าชายศรีสว่าง พระราชวงศ์ ราชนิกุล ที่ประทับในลาวเกือบ 30 องค์ถูกเชิญตัวไปพร้อมๆกัน
ขณะที่เจ้าฟ้าชายโสริยวงศ์สว่าง และพระชายา ซึ่งประทับอยู่ในนครเวียงจันทน์ ทรงไหวตัวหนีออกจากที่ประทับได้ทันท่วงที ก่อนที่จะเสด็จข้ามมาฝั่งไทย และขอลี้ภัยไปยังฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
เจ้าฟ้าชายโสริยวงศ์สว่าง ซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์เล็กของกษัตริย์และราชินีลาวองค์สุดท้าย จึงเป็นพระราชโอรสองค์เดียว ที่สามารถเอาชีวิตรอดจากระบอบใหม่ได้
หลังการรวมตัวกันของอดีตนักการเมือง ข้าราชการ-ทหาร ประชาชนลาวโพ้นทะเล เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ได้ทูลเชิญ เจ้าฟ้าชายโสริยวงศ์ องค์ประธานสมาชิกพระราชวงศ์ รับราชภาระ
“ผู้สำเร็จราชการ ต่างพระเนตร พระกรรณพระเจ้ามหาชีวิตแห่งราชอาณาจักรลาว”
ระหว่างลี้ภัยในฝรั่งเศส เจ้าฟ้าชายโสริยวงศ์สว่าง เปรียบดังองค์สมมุติกษัตริย์ของลาวพลัดถิ่น ทรงปฏิบัติราชกิจตลอดทั้งปี เพื่อบำรุงความเป็นลาวให้คงมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางศาสนา และสังคม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหล่อเลี้ยงลมหายใจของประเพณีโบราณลาว เช่น การเสด็จไปเป็นองค์ประธานร่วมกับเจ้าฟ้าชายสุริวงศ์สว่าง องค์รัชทายาทลาว ในพระราชพิธีบาศรีหลวง
ที่ประชาชนลาวโพ้นทะเลพร้อมใจกันจัดถวาย บุญปีใหม่ บุญเข้า-ออกพรรษา ตลอดจนการปรากฏพระองค์ในที่ชุมนุมทหารผ่านศึก
ทรงเป็นบุคคลสำคัญของชาวลาว ทั้งในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามชิกราชวงศ์เพียงไปกี่องค์ที่มีช่วงชีวิตพาดผ่านประวัติศาสตร์โชกเลือดบนแผ่นดินลาว และในฐานะของศูนย์รวม “ความหวัง” ของลาวบ้านไกล
เจ้าฟ้าชายโสริยวงศ์สว่าง ประสูติเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2480 ที่โฮงหัวลาด พระราชอาณาจักรหลวงพระบาง แคว้นลาว ประเทศอินโดจีน สิ้นพระชนม์แล้วด้วยพระโรคชรา
เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2561 ที่นครปารีส ประเทศฝรั่งเศส สิริพระชนมายุได้ 80 พรรษา 11 เดือน 12 วัน
ขอบคุณรูปภาพจาก somvone sananikone
ข่าวการสิ้นพระชนม์จาก History go Laos
Cr.mote faiupara