เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง... สมคิด ปูทางสู่การเมือง

ดันเศรษฐกิจดี หุ้นพุ่ง อ่านรายละเอียดเพจRichman can do

ขอโอเลี้ยงแก้วเดียว ถ้าสมคิดไม่เล่นการเมือง 

เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง... สมคิด ปูทางสู่การเมือง

วลีเด็ดและบทบาทการบริหารงานเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เริ่มเข้มข้นและเผ็ดมันขึ้นรื่อย ๆ จากก่อนหน้าที่ก่อนปลายปีที่แล้ว ดร.สมคิด ออกมาประกาศว่า ปีนี้คนจนจะหมดประเทศไทย ซึ่งกลายเป็น วลีทอง ที่ฮือฮากันไปทั่ว และกลายเป็นคำฮิตติดปาก ถ้าไม่มี คำว่า"แหวนเพชร และ นาฬิกา" ขึ้นมาแซง  จากนั้นมา ดร.สมคิด ก็เดืนหน้าผลักดันทุกหน่วยงานเศรษฐกิจที่ดูแล ให้เร่งออกมาตรการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเน้นไปที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการของรัฐราวกว่า 11 ล้านคนก่อนอันดับแรก

เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง... สมคิด ปูทางสู่การเมือง

ดังนั้นจึงเกิดข่าวขึ้นมาว่า ดร.สมคิด คือ หัวหน้าพรรคการเมือง สายทหาร คนต่อไป และมีแผนจะลงเล่นการเมือง เพราะดูจากแผนเศรษฐกิจที่ออกมาจะเน้นไปที่รากหญ้า ซึ่งเป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ เพราะถ้าดร.สมคิดแก้ปัญหาความยากจนได้เสริจจริงในปีนี้ มีผลงานที่ชัดเจน ถ้าการเลือกตั้งมีในปีหน้านี้ ดร.สมคิด มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากจับฐานทั้งคนจนและคนรวย เพราะกลุ่มระดับกลางขึ้นบน ดร.สมคิด ก็ดันเศรษฐกิจ การส่งออก และที่สำคัญคือ ตลาดหุ้น ที่เปิดมาต้อนรับศักรราชใหม่แค่ 2 วันดัชนีหุ้นไทยก็ขึ้นมาแตะ 1800 จุดได้สำเร็จ นับเป็นสถิติสูงสุด จากการก่อตั้งตลาดหุ้นมา 42 ปี และช่วงนี้ก็ยังไต่ไปมาในระดับนี้ ถึงขนาดชาวหุ้น ตั้งคำถามกันเล่น ๆ ว่า "จะเอาประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ"
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ปาฐกถาพิเศษ "พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย สู่ยุคดิจิทัล" จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่า ตั้งแต่เปิดปี 61 มานี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากซึ่งสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวได้อย่างดี ซึ่งเป็นผลมาจากการการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมไปถึงการปฎิรูปเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/60 มีโอกาสที่จะขยายตัวได้ถึง 5%
พร้อมกันนี้มองว่าหากการเมืองนิ่ง การเลือกตั้งผ่านไปด้วยความราบรื่น และมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งแล้ว ก็จะเป็นตัวสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าไปและขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีทิศทางแบบนี้เงินทุนต่างชาติจะยังคงไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง

เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง... สมคิด ปูทางสู่การเมือง

ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลจะเร่งดำเนินการคือ การปฏิรูปภาคการเกษตร การยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีศักยภาพมากขึ้น โดยกระทรวงการคลังจะเร่งพิจารณาจัดทำงบกลางปี เพื่อปฏิรูปการเกษตรและยกระดับฐานราก เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในปีนี้
“นักลงทุนจะไม่มาไทยได้อย่างไร 2 ปีที่ผ่านมาการเข้ามาเปรียบเหมือนเราเป็นอู่รถที่ต้องเข้ามาปรับจูนเครื่องยนต์ให้สามารถวิ่งได้ จากเดิมอาจจะวิ่งได้แค่ 40 มาเป็น 80 และเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในอนาคตหากคู่แข่งสามารถวิ่งไปได้ถึง 180-200 เราคงไม่ใช่เป็นแค่การจูนเครื่องแล้ว แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์บางเครื่อง เปรียบเหมือนกับการปฎิรูปประเทศที่จะเกิดขึ้น  ซึ่งในช่วงไตรมาส 4/60 หลายคนบอก GDP จะใกล้ 4.5% แต่ผมมองว่าจะมีโอกาสถึง 5% และทั้งปีมีโอกาสที่จะถึง 4% ได้ โดยสิ่งสำคัญมันมาจากความเชื่อมั่นของประชนชนสำคัญที่สุด ซึ่งในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนสูงสุดในรอบ 35 เดือน และความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมสูงสุดในรอบ 22 เดือน มาถึงตอนนี้ผมอยากให้ทุกท่านวัดเองว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ หากเห็นว่าอันไหนไม่ดีให้มาบอกด้วย"ดร.สมคิด กล่าว
เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง... สมคิด ปูทางสู่การเมือง

 สำหรับมาตรการช่วยเหลือภาคเกษตร และผู้มีรายได้น้อยนั้น วานนี้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้มีมติเห็นชอบ มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยระยะที่ 2 ซึ่งในเฟสแรกนั้น รัฐบาลได้เพิ่มวงเงินในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นให้กับผู้มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน หรือ มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 500 บาท และหากมีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้วงเงินเพิ่มเป็น 300 บาท แต่อย่างไรก็ตามจะตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดว่าผู้มีรายได้น้อยจะต้องพัฒนา สร้างอาชีพด้วย ขณะเดียวกันยังดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุน โดยให้สิทธิประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษีกับผู้ประกอบการที่ใช้จ่ายเพื่อการอบรม หรือ พัฒนาทักษะแรงงานให้กับผู้มีรายได้น้อย ด้วย
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ บมจ.กสท โทรคมนาคม บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกันสร้างตลาดอีคอมเมิร์สในร้านโชว์ห่วย และร้านค้าประชาชน โดยให้สามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยมอบหมายให้พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหัวหน้าทีม ในการศึกษาและพิจารณาด้านกฎหมายดิจิทัลให้มีความทันสมัย รองรับกับสิ่งที่รัฐบาลจะเร่งดำเนินการ โดยจะต้องให้ได้ความชัดเจนภายในปีนี้