- 14 ม.ค. 2561
ใครไม่อยากเป็นโรคไตต้องดู!!! 7 สุดยอดอาหารที่ช่วยบำรุง และเสริมสร้างไตให้แข็งแรง กินทุกวันห่างไกลโรคแน่นอน
ไตเป็นอวัยวะสำคัญส่วนหนึ่งในร่างกาย มีลักษณคล้ายเมล็ดถั่วแดง ซึ่งปกติคนทั่วไปจะมีไตอยู่ 2 ข้าง ทำหน้าที่กรองของเสียที่อยู่ในกระแสเลือด แล้วขับออกนอกร่างกายทางน้ำปัสสาวะ ช่วยควบคุมระดับของน้ำภายในร่างกายให้คงที่ รวมทั้งช่วยปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่าง ซึ่งจะทำให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งภ้าหากเรารัปประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือกินอาหารรสจัดอยู่บ่อยๆ เช่น เค็มจัด มันจัด ไตก็จะทำงานหนักมากขึ้น เสื่อมสภาพเร็ว และเสี่ยงเป็นโรคอื่นๆอีกมากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ คลอเรสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
เพราะฉะนั้นจึงควรดูแลสุขภาพของไต เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดรับประทานอาหารที่เค็มจัด หรือมันจัดมากเกิน หรือรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงไต ซึ่งมี 5 อย่างดังต่อไปนี้
1. กระเทียม
นอกจากจะมีประโยชน์ในการนำมาปรุงรสอาหารเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการบริโภคเค็มได้ดีแล้ว ในกระเทียมยังมีสารอัลลิอิน (Alliin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อราต่าง ๆ ได้ดี ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยขับสารพิษในกระแสเลือดจึงทำให้เลือดสะอาดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน รวมทั้งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตได้ด้วย
2. หอมหัวใหญ่
หอมหัวใหญ่ นอกจากจะมีวิตามินซีสูงแล้ว ยังมีสารเคอร์ซิติน (Quercetin) ซึ่งเป็นพฤกษเคมีในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันโรคต่างๆได้ดี ทั้งยังมีสารโพรสตาแกลนติน (Prostaglandin) ในปริมาณสูง จึงมีส่วนช่วยลดความหนืดของเลือด มีสารอัลลิลิกไดซัลไฟด์ (Allilic Disulfides) ที่มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยลดความดันโลหิต จึงนิยมนำมาประกอบอาหารให้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต รวมทั้งช่วยป้องกันการเกิดโรคไตในผู้ที่ยังแข็งแรงดีได้
3. กะหล่ำปลี
ในกะหล่ำปลีมีปริมาณของเกลือโซเดียมต่ำที่ไม่ทำให้ไตต้องทำงานหนักแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงไต นอกจากนี้ กรดทาร์ทาริก (Tartaric Acid) ที่อยู่ในกะหล่ำปลี ยังมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งและขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ ที่สำคัญคือ ในกะหล่ำปลียังอุดมไปด้วยสารกลูตาไธโอน (Glutathione) ซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการขับล้างสารพิษต่าง ๆ ในร่างกาย จึงช่วยลดภาระการทำงานของไตไปได้มาก
4. เนื้อปลา
ได้แก่ ปลาสวาย ปลาช่อน ปลากะพงขาว ปลาแซลมอน ปลาเทราต์ ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า และปลาแมคคาเรลเป็นต้น เนื่องจากมีกรดไขมันโอเมกา 3 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดความข้นเหนียวของเลือด ช่วยควบคุมความดัน และป้องกันการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ การรับประทานปลาทะเลเป็นประจำจึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิต ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะนำไปสู่การเกิดภาวะไตเสื่อมลงได้
5. แครนเบอรี่
ผลไม้ตระกูลเบอรี่ที่มีสรรพคุณช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในปัสสาวะ จึงช่วยป้องกันและรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบและการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะจึงช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไต เนื่องจากความเป็นกรดอ่อน ๆ ของผลแครนเบอรี่จะไปป้องกันการตกตะกอนของแคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดก้อนนิ่วได้ นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมีหลายชนิดและมีวิตามินซีสูง จึงมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ รวมทั้งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี
6. เห็ดหูหนูดำ
ช่วยบำรุงไต บำรุงระบบย่อยอาหาร ช่วยฟอกเลือด ลดคลอเรสเตอรอล เห็ดหูหนูมีฤทธิ์เย็นไม่ควรกินเยอะเกินไปเพราะจะทำอ่อนเพลีย ท้องร่วง ท้องอืด
7. หนวดข้าวโพด (ไหมข้าวโพด)
ต้มแล้วดื่มแทนน้ำ จะช่วยขับปัสสาวะจึงสามารถลดอาการความดันโลหิตสูงและอาการบวมน้ำได้ ทั้งยังช่วยรักษานิ่วในไตระยะแรก ลดเบาหวาน แก้คลื่นไส้ อาเจียนได้ หนวดข้าวโพดมีฤทธิ์เย็นถ้ารับประทานมากเกินไปจะทำให้อ่อนเพลีย ท้องร่วงได้
ขอบคุณข้อมูล : organicbook , letterplanet
อ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติม :