- 15 ม.ค. 2561
มีเด็ด ๆ หลายตัว น่าช็อป อ่านรายละเอียดเพจRichman can do
เล่นเก็งกำไร กลุ่มที่งบการเงินไตรมาส 4 ออกมาดี
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์การลงทุนว่า แม้กลุ่มธนาคารฯมีความเสี่ยงที่จะเกิดการขายทำกำไร Sell on Fact แต่ตามสถิติมักจะมีการฟื้นตัวหลังการประกาศงบในอีก 2 สัปดาห์ถัดมา ทำให้จังหวะย่อตัวเป็นโอกาสในการเข้าเก็บสะสมอีกครั้ง ขณะที่กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ ยังเป็นกลุ่มที่จะนำตลาดต่อไป วันนี้เน้นเลือกหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาสที่ 4 ปี 60 จะออกมาดี เช่น BCP ORI และ JWD เป็น โดยหุ้นเด่นวันนี้นำหุ้น BCP
อย่างไรก็ตาม ระมัดระวังการขายทำกำไรหลังการประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคารฯ : สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา TISCO ทำการรายงานผลประกอบการในงวดไตรมาส 4 ปี 60 มีกำไรสุทธิ 1,522 ล้านบาท แม้กำไรรวมทั้งปีจะออกมาดี 6 พันล้านบาท ขยายตัว 21.7% แต่กำไรงวดไตรมาส 4 ปี 60 ที่ออกต่ำกว่าตลาดคาด 6.5% จะเป็นเหตุให้ TISCO มีโอกาสถูกขายทำกำไรได้
สัปดาห์นี้ติดตามการรายงานงบของธนาคารฯที่เหลือ ซึ่งทั้งหมดจะประกาศกันในวันที่ 18-19 ธ.ค.61 บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย คาดว่า กำไรของ 7 ธนาคาร (BBL SCB KTB BAY KKP TCAP TMB) จะมีกำไรรวม 3.66 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบไตรมาส 4 กับ ไตรมาส 3
คาด TCAP และ BAY จะเป็นธนาคารที่มีกำไรขยายตัวโดดเด่นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ KTB จะเป็นธนาคารที่ขยายตัวดีเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ส่วน BBL กำไรจะทรงตัว โดยต้องระวังผลประกอบการของ SCB ประเมินว่าจะมีกำไรในงวด ไตรมาส 4 ปี 60 ราว 1 หมื่นล้านบาท หดตัวรุนแรง 21.2% เทียบงวดเดียวกันปีที่แล้ว
หลังการประกาศงบคาดว่ากลุ่มธนาคารฯจะเกิดการขายทำกำไร Sell on Fact เหมือนอย่างทุกงวดที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจากสถิติ 12 งวดหลังสุด กลุ่มธนาคารจะมีการฟื้นตัวหลังจากผ่านพ้นการปรับประกาศงบไป 2 สัปดาห์ เพราะฉะนั้นการปรับตัวลดลงยามที่ประกาศผลประกอบการจะเป็นโอกาสในการเข้าไปเก็บสะสมเพิ่ม บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย (KS Research) ยังคงเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม เลือก MTLS, ORI และ JWD เป็นหุ้นเด่นสำหรับการเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 4 ปี 60
สำหรับการเก็งผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4 ปี 60 ซึ่ง บริษัทหลีกทรัพย์ กสิกรไทย ประเมิน กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 60 โดดเด่น หรือสามารถขยายตัวดีที่สุดเมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นๆของปี จนดึงให้กำไรทั้งปีเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ประกอบไปด้วย ธนาคารฯ TCAP, KTB ส่วนค้าปลีก BEAUTY, COM7 ,CPALL ,HMPRO, MEGA, ROBINS วัสดุก่อสร้าง SCC พลังงาน BANPU, BCP, PTT, PTTEP การเงิน MTLS, SAWAD สื่อสาร TRUE อสังหาฯ AP, ORI, PSH, SC, SPALI ขนส่งและโลจิสติก JWD สาธารณูปโภคและพลังงานทดแทน EGCO, RATCH, BCPG, GULF
ในกลุ่มหุ้นข้างต้น บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย( KS Research) เลือกหุ้นที่โดดเด่นที่สุดและมี Upside ที่น่าสนใจคือ ROBINS, PTTEP, MTLS, TRUE, ORI, SC, JWD
ติดตามการเจรจาเพื่อขยายเพดานหนี้ของสหรัฐในวันที่ 19 ม.ค.61 : การเจรจาขยายเพดานหนี้และการเจรจางบประมาณของสหรัฐ จะมาถึงเส้นตายคือในวันที่ 19 ม.ค.61 ซึ่งเป็นวันสุดของการขยายระยะเวลาใช้งบประมาณฉุกเฉิน หากการเจรจารอบนี้ไม่สามารถที่จะตกลงกันได้ จะทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงในการปิดหน่วยงานราชการ รวมไปถึงการถูกลดอันดับเครดิตอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าท้ายที่สุดพรรครีพับลิกันซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาฯจะสามารถบรรลุการเจรจาดังกล่าวได้ และเรื่องนี้จะไม่มีผลในทางลบต่อตลาด
กลยุทธ์การลงทุน : เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขาขึ้น BCP (ได้กำไรพิเศษจากสินค้าคงคลัง) งบไตรมาส 4 ปี 60 โดดเด่น ORI, JWD เป็น หุ้นเด่น Top Pick ส่วนระยะกลางยังคงให้ถือเพื่อ ทำกำไรต่อไป เช่น กลุ่มนิคมฯ AMATA ,WHA, TICON ธนาคาร BBL, TISCO รับเหมาฯ STEC, PYLON 2) การฟื้นตัวของอุปโภคบริโภคในประเทศ ค้าปลีก CPALL ,CPN, ROBINS อสังหา SC ,QH การเงิน MTLS, SAWAD 3) การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและหุ้นชดเชยเงินเฟ้อ พลังงาน PTT, PTTEP ปิโตรเคมี PTTGC IVL
ที่มาของข้อมูล ประกิต สิริวัฒนเกตุ นักกลยุทธการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย