"เหวง"เปรียบปรากฎการณ์"แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน-นายกคนนอก" สนิมกัดกร่อนเหล็ก รอวันเปลี่ยนแปลง

"เหวง"เปรียบปรากฎการณ์"แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน-นายกคนนอก" สนิมกัดกร่อนเหล็ก รอวันเปลี่ยนแปลง

นพ.เหวง โตจิราการ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแเดง  โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "เหวง โตจิราการ" แสดงความคิดเห็นกรณีนาฬิการหรู ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม   ปรากฏการณ์ "แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน" เกิดจากผู้กุมอำนาจเองเปรียบเหมือนสนิมเหล็ก ที่กัดเนื้อเหล็กจนกร่อน

สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน
กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร้ำ
บาปเกิดแต่ตนคน เป็นบาป
บาปย่อมทำโทษซ้ำ ใส่ผู้บาปเอง

ปรากฏการณ์ “แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน”นั้นเกิดขึ้นจากผู้กุมอำนาจเอง แล้วยังหลงลำพองใจว่า “ไม่มีผลกระทบใดๆ”ต่อพวกเขาแน่นอนเพราะองค์กรที่จะจัดการกับพวกเขานั้นเป็นองค์กรที่ตั้งโดยพวกเขา และได้รับการต่ออายุสืบเนื่องก็จากอำนาจของพวกเขาดังนั้น “ไม่เห็นจะต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจอะไร”แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะปรากฏต่อหน้าสายตาประชาชนจำนวนมากถึง24เรือนโดยที่ราคาแต่ละเรือนก็กว่าล้านหรือเกือบล้านทั้งสิ้น

การประกาศอย่างมั่นอกมั่นใจว่า ประเทศไทย ต้องใช้ “ประชาธิปไตยไทยนิยม”ซึ่งเป็นการยืนยันว่า ประเทศไทย ต้องเป็น “ประชาธิปไตยแบบเผด็จการซ่อนรูป”ก็เป็นการมองข้าม อำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชาวไทยไปอย่างไม่เห็นหัวประชาชนเลยแม้แต่น้อย แล้วท่านไม่คิดหรือว่าประชาชนทั้งประเทศที่เคยได้ลองลิ้มชิมรสประชาธิปไตยแท้จริงมาแล้วจะรู้สึกนึกคิดอย่างไร

การยังคงกดหัวพรรคการเมืองนักการเมืองทั้งหมดไม่ให้ดำเนินกิจการทางการเมืองทั้งที่พรป.พรรคการเมืองได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่เดือนตุลาคม60แล้ว ต่อมาแก้เกี้ยวโดยการใช้อำนาจม.44ออกคำสั่งที่53/2560ออกมายิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเพราะเป็นการประกาศวาระซ่อนเร้นที่ต้องการบั่นทอนพรรคการเมืองที่มีฐานทางการเมืองเรือนแสนเรือนล้านให้เสียหายลงไปเพียงเพื่อให้ตนและพรรคพวกได้มีโอกาสงอกเงยทางการเมืองขึ้นมา

การประกาศตนเป็นนักการเมืองพร้อมกับอธิบายว่าการเลือกคนนอกเป็นนายกฯนั้นเป็นการปิดประตูรัฐประหารในอนาคตโดยไม่เฉลียวใจว่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ(ปี35)เกิดขึ้นด้วยเรื่อง “ต่อต้านนายกฯคนนอก”แม้รัฐธรรมนูญจะไม่ห้ามก็ตาม
ทั้งนี้เพื่อปูทางให้ตนหรือพวกได้มีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯต่อเนื่องต่อไปเพื่อสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร

ยังเรื่องความไม่ชอบมาพากลจำนวนมากที่พวกของตนได้ดำเนินการไว้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การซื้อเรือลำน้ำ เรื่องอผศ. เรื่องเที่ยวบินเช่าเหมาลำพร้อมอาหารหรูเลิศไข่คาร์เวียร์ ซึ่งล้วนจบไปแบบคาใจ
การอนุญาตให้บริษัทยักษ์ใหญ่ใช้ป่าสงวนอย่างผิดกฏหมายแล้วก็จบดื้อๆเพียงคืนให้ราชการ
เรื่องที่พี่น้องวงศ์วานว่านเครือได้ประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดิน

การบริหารงานทางเศรษฐกิจที่สร้างความมั่นคั่งร่ำรวยให้กับองค์กรธุรกิจขนาดยักษ์เพียงไม่ถึงสิบองค์กรแต่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศกลับยากจนข้นแค้นลง

ทั้งหมดนี้ บ่อนเสาะความแข็งแกร่งของกลุ่มกุมอำนาจลงอย่างทรงพลังรวมทั้งองคาพยพโดยรอบของพวกเขาก็คลอนแคลนลงมาเป็นลำดับ
นี่เป็นบางตัวอย่างของการดำเนินการโดยกลุ่มผู้กุมอำนาจเองทั้งสิ้น

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็คือ ความอัดอั้นไม่พอใจของประชาชนกลุ่มต่างๆเริ่มขยายตัวและแสดงออกอย่างไม่อาจจะปิดกั้นได้อีกต่อไป แม้ว่าในขณะนี้อำนาจของผู้กุมอำนาจยังกร้าวแกร่งอยู่ก็ตาม

ความผุพังอันเกิดจากจากการกัดกร่อนของสนิมเนื้อในตน ยังทะลุทะลวงไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน

เพราะทางผู้กุมอำนาจ “มีความมั่นใจในตนเอง ว่าสามารถดำเนินการตามประกาศคำสั่งม.44ได้ตามอำเภอใจย่อมไม่อาจจะมีผู้ใดมาระคายเคืองพวกตนได้อีกต่อไป”

แต่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยก็ได้สอนบทเรียนให้กับพวกคณะรัฐประหารคณะแล้วคณะเล่าแล้วว่า
เมื่อไปถึงจุดที่ประชาชนไม่ยอมอยู่ภายใต้การปกครองของอำนาจเผด็จการอีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

คสช.ครับ อย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลยครับ

"เหวง"เปรียบปรากฎการณ์"แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน-นายกคนนอก" สนิมกัดกร่อนเหล็ก รอวันเปลี่ยนแปลง

 

"เหวง"เปรียบปรากฎการณ์"แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน-นายกคนนอก" สนิมกัดกร่อนเหล็ก รอวันเปลี่ยนแปลง

"เหวง"เปรียบปรากฎการณ์"แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน-นายกคนนอก" สนิมกัดกร่อนเหล็ก รอวันเปลี่ยนแปลง

 

 

 

ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก "เหวง โตจิราการ