"เสี่ยวิชัย" เจ้าพ่อเงินกู้ดอกเบี้ยโหด หนีซุกปท.เพื่อนบ้าน ตะลึงขุมทรัพย์พันล้าน DSI แฉเครื่อข่ายกว่า 2 พันทั่วปท.มีเหยื่อเป็นแสนชีวิต

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับหลายหน่วยงานเข้าตรวจค้นบ้านของ นายวิชัย ปั้นงาม ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีปล่อยเงินกู้นอกระบบ ในชื่อแก๊งหมวกกันน็อก โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่าร้อยล้านบาท  ขณะที่นายวิชัยได้ติดต่อขอมอบตัวเมื่อช่วงปลายปี 2559 แต่สุดท้ายก็หลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่้อนบ้าน โดยไม่ได้เข้ามอบตัวแต่อย่างใด ตามรายละเอียดข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้า (คลิกอ่านรายละเอียด  :  ยาวไปขุดถอนให้ถึงราก!! ดีเอสไอค้นบ้าน"เสี่ยวิชัย ปั้นงาม"เจ้าพ่อปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ ยึดที่ดิน 700 ไร่ค่ากว่า 400ล.!! )  

 

ล่าสุด  พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เผยว่า นายวิชัย ปั้นงาม ผู้ต้องหาปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ได้ติดต่อเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ที่สำนักปฎิบัติกาพิเศษภาค ที่ชั้น 8 ศูนย์ราชการอาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. ก่อนเจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำนายวิชัยทันที แล้วจะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังก่อนเที่ยงวันนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนี เป็นหัวหน้าองค์กรอาชญากรรม และเป็นผู้มีอิทธิพลซึ่งอาจยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ และจะได้เร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับสมาชิกองค์กรดังกล่าวในส่วนที่เหลือต่อไป

 

 

"ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 31 ส.ค.59 เห็นชอบให้ขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานีและมีสาขาทั่วประเทศมากกว่า 86 สาขา โดยใช้ระบบแม่ข่ายคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด เป็นคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการสืบสวนและสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีเรื่อยมา ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เป็นกลุ่มธุรกิจชื่อ V8 ซึ่งเป็นองค์กรปล่อยเงินกู้นอกระบบและคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย" 

 

นอกจากนี้พ.ต.อ.ไพสิฐ ยังเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกด้วยว่า  จากการตรวจสอบพบขบวนการปล่อยกู้เถื่อนดังกล่าวมีสมาชิกองค์กรกว่า 2,000 คน และมีสาขาทั่วประเทศมากกว่า 86 สาขา มีพนักงานกว่า 2,000 คน และมีผู้กู้กว่า 100,000 รายทั่วประเทศ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยมีนายวิชัย เป็นหัวหน้า และได้หลบหนีไปต่างประเทศตั้งแต่ปลายปี 2558 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอได้ทำการจับกุมสมาชิกองค์กรในระดับตัวการสำคัญได้แล้วทั้งสิ้น 47 ราย (บัญชีคุมงาน 46 ราย หัวหน้าฝ่ายไอที 1 ราย) ได้ร่วมกับ ปปง. ตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินของนายวิชัยฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแล้วจำนวนหลายรายการ อาทิเช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินสด เงินฝาก เครื่องประดับ พระเครื่อง รวมมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท