ถล่มไม่ให้เหลือซาก!! ตุรกีทิ้งบอมบ์เสร็จ ก่อนส่งทหารบุกถล่มฐานชาวเคิร์ดในซีเรีย ลั่นต้องกำจัดให้ราบคาบ

วันที่ 23 ม.ค. 61 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า จากกรณีที่ตุรกีได้มีการเปิดยุทธการทางทหารที่มีชื่อว่า "โอลีฟ แบรนช์ " เพื่อถล่มขับไล่กองกำลังติดอาวุธพีเพิลส์ โพรเทคชั่น ยูนิตส์ หรือ YPG ของชาวเคิร์ดในซีเรีย ให้ออกไปจากพื้นที่เขตอัฟริน ทางภาคเหนือของซีเรีย เป็นเวลา 4 วัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 54 ราย เป็นฝ่ายเคิร์ด 26 ราย ฝ่ายตุรกีเสียนักรบที่มาช่วยกองทัพไป 19 ราย 

 

สำหรับกองกำลังติดอาวุธพีเพิลส์ โพรเทคชั่น ยูนิตส์ หรือ YPG เป็นองค์กรก่อการร้ายที่เกี่ยวพันกับพวกกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในตุรกีที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งทางตุรกีไม่พอใจมากที่สหรัฐฯให้การหนุนหลังอยู่ โดยเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเรเจ็ป ไตยิป เอร์โดอัน ผู้นำตุรกี ได้กล่าวว่า ตุรกีจะไม่มีทางถอยปฏิบัติการนี้เพื่อบดขยี้ ปราบปรามนักรบชาวเคิร์ดและกลุ่มไอเอสให้ราบคาบอย่างรวดเร็ว ตุรกีได้เปิดฉากอย่างหนักด้วยการทิ้งระเบิดทางอากาศ ก่อนส่งกองกำลังทหารราบและรถถังบุกยึดหมู่บ้านหลายแห่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เพื่อทลายฐานที่มั่นของกองกำลังชาวเคิร์ด

 

ด้านโฆษกของกลุ่ม YPG ได้กล่าวว่า ตอนนี้กองทัพตุรกียังไม่สามารถยึดดินแดนของชาวเคิร์ดไปได้ โดยกองกำลังของชาวเคิร์ดยังคงต้านทานพวกตุรกีเอาไว้ และบีบให้ตุรกีเป็นฝ่ายต้องถอย นอกจากนี้โฆษกของกลุ่ม YPG ยังกล่าวอีกว่า ยิ่งตุรกีทำเช่นนี้เท่ากับช่วยเหลือไอเอส เพราะกองกำลังของชาวเคิร์ดเป็นกำลังสำคัญในการขับไล่ไอเอส

 

 

ขณะที่ทางสหรัฐฯที่หนุนหลัง YPG ในการต่อสุ้กับกลุ่มไอเอสที่ซีเรีย ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนทางด้านฝรั่งเศลได้มีการเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) จัดประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือเรื่องการสู้รบดังกล่าว ขณะที่ทางรัฐบาลรัสเซียไม่แสดงท่าทีจะยุ่งเกี่ยวและได้มีการถอนกำลังออกจากอัฟรินแล้ว