แชร์รัว ๆ บินไทย ดินพอกหางหมู ขายโรงแรมทิ้งก็ยังไม่รอด

ขายสมบัติเก่ากิน ก็ทำได้แค่แก้ปัญหาประทังชีวิตไปวัน ๆ .....

จากการประสบปัญหาภาระขาดทุน และเพื่อความอยู่รอดของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ที่ต้องทำหลายวิธีทางด้วยกัน ทั้งหากิจการเพิ่ม ลดต้นทุน เพื่อเพิ่มรายได้ และเฮือกสุดท้ายคือ ตัดทรัพย์สินขาย เพราะฐานะการเงินงวด 9 เดือนของปีนี้ขาดทุนกว่า 3,878 ล้านบาท   และ ณ ไตรมาส 3 ปี 2560 มีหนี้สินรวม 257,960.99 ล้านบาท  ทางรอดขณะนี้คือ ต้องทำทุกทางพร้อม ๆ กัน แต่ดูเหมือนว่าแผนขายอสังหาฯยังไม่มีความคืบหน้า หาคนซื้อไม่ได้  ขณะที่ไฟก็รนก้นมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ต้องหาเงินมาประคับประคองชีวิตเพื่อให้กิจการเดินหน้าต่อไป

ล่าสุดการบินไทยจึงใช้วิธี ทางรอดง่ายที่สุดคือ การขายทรัพย์สินดีที่สุดออกไปก่อนเพราะจะขายได้ง่ายที่สุด  ดังที่ปรากฎในรายงาน ตามที่บริษัทแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท การบินไทย ได้อนุมัติการขายหุ้นจำนวน 22,500,000 หุ้น คิดเป็น 24% ในบริษัท โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ROH เป็นจำนวนเงิน 922.50 ล้านบาท ให้กับ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND ซึ่ง ROH ดำเนินกิจการโรงแรมชั้นหนึ่ง จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มพร้อมให้บริการอื่นๆ และเหตุที่การบินไทยทำเช่นนี้ได้เพราะ ทีจี เป็น1 ในผู้ถือหุ้นใหญ่ใน โรงแรมรอยัลออคิด
ลำดับ    ผู้ถือหุ้นรายใหญ่                                   จำนวนหุ้น (หุ้น)            % หุ้น
1.     บริษัท สตาร์วูด โฮเต็ล (ประเทศไทย) จำกัด    41,250,235             44.00
2.     บริษัท เอ็ม บี เค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด    27,998,051            29.86
3.     บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)                  22,500,000            24.00
ดังนั้นเท่ากับว่า ทีจี ได้ขายหุ้น ROH ที่บริษัทถืออยู่ทั้งหมด 24% ออกไปให้กับบริษัท GRAND เพื่อให้บริษัทได้รับเงินกลับคืนมาประทังชีวิตจำนวน 922.50 ล้านบาท
 

 ก่อนหน้านี้ที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้ประกาศว่า  ขณะนี้มีอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างขบวนการขายจำนวนรวมทั้งสิ้น 9 แห่ง แบ่งเป็นอสังหาฯในต่างประเทศ 6 แห่ง และในประเทศจำนวน3แห่ง
 โดยอสังหาฯในต่างประเทศ 6 แห่งประกอบด้วย 1.บ้านพักแบบทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น  ที่ถนนสแตมฟอร์ด เคนซิงตัน  ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ขนาดพื้นที่ 135 ตารางเมตร 2.บ้านพักพร้อมที่ดิน  ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ขนาดพื้นที่ 3,088 ตารางเมตร 3.บ้านพักพร้อมที่ดิน  ที่กรุงจาร์กาตา ประเทศอินโดนิเซีย ขนาดพื้นที่ 915 ตารางเมตร 4.อาคารสำนักงาน ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ขนาดพื้นที่ 243 ตารางเมตร 5.อาคารสำนักงาน ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ขนาดพื้นที่750 ตารางเมตร และ 6.อาคารสำนักงาน ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน ขนาดพื้นที่ 663 ตารางเมตร
ขณะที่อสังหาฯ ในประเทศ จำนวน3 แห่งนั้น การบินไทยได้ทำการประกาศขายโดยวิธียื่นซองเสนอราคา โดยเปิดให้เอกชนที่สนใจสามารถซื้อซอง ตั้งแต่ 1ธ.ค.2560 ที่ผ่านมา  ประกอบด้วย 1.บ้านพัก2ชั้นและอาคารสำนักงาน2ชั้น  ที่ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ขนาดพื้นที่ 76.6 ตารางวา  2.บ้านพักและอาคารสำนักงานที่ต.หมากแข้ง อ.เมืองจ.อุดรธานี ขนาดพื้นที่ 231 ตารางวา และ3.อาคารสำนักงาน เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 3คูหา  ที่อ.เมือง จ.พิษณุโลก ขนาดพื้นที่ 36.8 ตารางวา  สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจยื่นซองเสนอราคาซื้อสังหาฯในประเทศทั้ง 3แห่ง  การบินไทยได้เปิดประมูลเชิญชวนให้เอกชนสามารถซื้อซองเอกสารระหว่างวันที่ 1-22 ธ.ค. 2560 และกำหนดให้ยื่นซองเสนอราคาพร้อมกันทั้ง3แห่งในวันที่ 25 ธ.ค. 2560  โดยอสังหาฯที่แม่ฮ่องสอนและพิษณุโลกนั้นจะทำการเปิดซองข้อเสนอและเรียกผู้เสนอราคามาเจรจาต่อรองราคาในวันที่  26 ธันวาคม 2560  ส่วนที่อุดรธานี จะเปิดซองข้อเสนอและเรียกผู้เสนอราคามาต่อรองราคาในวันที่ 25 ธันวาคม 2560