ติดตามข่าวสารได้ที่ www.mouthkrajay.com

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2561
"สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน กับฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 1 จนถึง วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561) " 


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีสภาพอากาศแปรปรวนโดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นต่อไปอีก 1 วัน และอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่วนภาคเหนือมีกระแสลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็น


และในช่วงวันที่ 2 - 6 กุมภาพันธ์ 2561 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงได้อีก 3-5 องศาเซลเซียส ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมา ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง


ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 1 - 6 กุมภาพันธ์ 2561 โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกษตรกรควรระวังความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และประชาชนบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายสภาวะฝนที่เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

       

ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และติดตามข้อมูลจากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

       

ประกาศ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 05.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น.
      

(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย

(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

กรมอุตุฯ เตือน 1-6 ก.พ. นี้ ความกดอากาศสูงจากจีนปกคลุมไทย ส่งผลให้พื้นที่ต่อไปนี้เกิดฝนฟ้าคะนอง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา (รายละเอียด)

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น. โดยได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง และอากาศจะหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็น ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นลมบริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ 

 

กรมอุตุฯ เตือน 1-6 ก.พ. นี้ ความกดอากาศสูงจากจีนปกคลุมไทย ส่งผลให้พื้นที่ต่อไปนี้เกิดฝนฟ้าคะนอง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา (รายละเอียด)

 

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศหนาวเย็น สำหรับภาคใต้ มีลมตะวันออกที่พัดปกคลุมจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและคลื่นลมมีกำลังแรงขึ้น

ภาคเหนือ    

ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


ภาคกลาง    

อากาศเย็น กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคตะวันออก    

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลคลื่นสูงมากว่า 2 เมตร


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่

 

กรมอุตุฯ เตือน 1-6 ก.พ. นี้ ความกดอากาศสูงจากจีนปกคลุมไทย ส่งผลให้พื้นที่ต่อไปนี้เกิดฝนฟ้าคะนอง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา (รายละเอียด)