เส้นทางการเกิดสงครามโลกครั้งที่3."ตะวันออกกลางรบกันดุเดือด แต่ เพื่อนบ้านเราเคลื่อนไหวทางทหารต่อเนื่อง ที่กระพริบตาไม่ได้เช่นกัน"

จีน สหรัฐฯและรัสเซียอยากมีอิทธิพลเหนืออาเซียน ล่าสุดเจมส์ แมทซิส รมว.กลาโหมอเมริกาเดินทางมาอินโดฯและเวียดนามเป็นการด่วนพร้อมบอกชัดๆจะหาทางลดอิทธิพลของจีนและรัสเซีย   นี่คือปัญหาใหญ่ของกลุ่มอาเซียนที่ไทยเป็นสมาชิกอยู่ด้วย      ทำไมมหาอำนาจทั้ง 3 จึงพุ่งเป้ามาที่อาเซี่ยนพร้อมกัน

 

ถึงเวลาทุกคนต้องเร่งให้กองทัพเสริมเขี้ยวเล็บโดยเร็ว ....สงครามที่ตะวันออกกลางยังคงรบกันต่อไปนายพลสหรัฐฯ เสนอโจมตีเกาหลีเหนือโดยด่วน ...ขอพักสถานการณ์ที่ตะวันออกกลางมาดูเรื่องใกล้บ้านเราซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ นั่นคือกัมพูชากำหนดการซ้อมรบกับจีนพม่าสั่งซื้อเครื่องบินรบล็อตใหญ่จากรัสเซียก่อนหน้านี้อินโดนีเซียมาเลเซียก็มีแผนจัดซื้อเครื่องบินรบและเรือดำน้ำจากรัสเซียเช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะทุกประเทศตระหนักดีว่า ทั้งจีน สหรัฐฯและรัสเซียอยากมีอิทธิพลเหนืออาเซียน ล่าสุดเจมส์ แมทซิส รมว.กลาโหมอเมริกาเดินทางมาอินโดฯและเวียดนามเป็นการด่วนพร้อมบอกชัดๆจะหาทางลดอิทธิพลของจีนและรัสเซีย   นี่คือปัญหาใหญ่ของกลุ่มอาเซียนที่ไทยเป็นสมาชิกอยู่ด้วย      ทำไมมหาอำนาจทั้ง 3 จึงพุ่งเป้ามาที่อาเซี่ยนพร้อมกัน

 

 

 

ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางด้านคุณสัมฤทธิ์ ทองอินทร์ ผู้เขียนหนังสือสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ให้เหตุผลเอาไว้ดังต่อไปนี้

 

 

1.เพราะตะวันออกกลางรัสเซียและสหรัฐฯ ปักหมุดได้แล้วแบ่งพวกแบ่งฝ่ายได้ชัดเจนถ้าเกิดสงครามใดๆขยายตัวไม่มีใครเสียเปรียบใคร 

 

2.อาเซียนยังเป็นกลางแต่ด้วยหลายปัจจัยทำให้บางประเทศไม่พอใจสหรัฐฯจึงหันไปหาจีนและรัสเซียโดยเฉพาะพม่าและกัมพูชาไม่หวนไปหาสหรัฐฯโดยเด็ดขาดถึงขนาดไล่เอ็นจีโอประท้วงทางการทูตแล้ว

 

 

3.เพราะอ่าวไทย และ ทะเลจีนใต้อุดมไปด้วยน้ำมันจำนวนมหาศาลทุกประเทศรวมถึงคนไทยก็รู้กลุ่มผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจจึงอยากได้จึงเร่งแสวงหาสุดท้ายก็ต้องแย่งกันและหนีไม่พ้นนโยบายทางทหาร 

 

4.หลายประเทศในอาเซียนยังไม่ผูกมัดตนเองกับชาติใดๆทำให้ทุกชาติมหาอำนาจต้องเร่งระดมยุทธวิธีดึงมาเป็นพันธมิตรพิเศษให้ได้ 

 

สำหรับเรื่องที่น่าเป็นห่วงและ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นับจากพรุ่งนี้

1.มหาอำนาจไม่ยอมกันแน่เพราะอาเซียนคือจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของโลก  

 

     
2.ประเทศอาเซียนทุกประเทศจะแข่งขันกันเสริมสร้างกองทัพเป็นการใหญ่ใครไม่ดำเนินการหรือชักช้ามีสิทธิ์ถูกข่มเหงรังแกได้ง่ายข้อนี้เป็นจริงแน่นอนเพราะบางประเทศเร่งรีบผิดปกติ            

 

3.สหรัฐฯ จะใช้วิธีที่รุนแรงกว่าใครเพราะถือว่าเคยมีอิทธิพลในแถบนี้มากกว่ารัสเซียและจีน

 

4.รัสเซียและจีนจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเต็มที่กลุ่มอาเซียนร้องขอใดๆจะได้ทันทีไม่ชักช้ายิ่งเป็นเรื่องทางทหารให้ไม่อั้น             

   

บทสรุป  จากเรื่องสำคัญๆทั้งหมดที่กล่าวมาไม่มีข้อไหนที่เกินความจริงหรือยังไม่เกิดขึ้นถึงเวลาที่ทุกคนต้องเร่งให้กองทัพเสริมเขี้ยวเล็บให้มากประมาทไม่ได้และร่วมกันป้องกันทุกสิ่งทุกอย่างบนแผ่นดินของเรา ได้แล้วใช่ไหม