- 03 ก.พ. 2561
ติดตามรายละเอียดที่นี่ Facebook : Deeps News
หลังจากสร้างปัญหามาระยะหนึ่งกับปริมาณฝุ่นละลองในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถึงขั้นหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าสภาพอากาศมัวซัวเป็นผลมาจากสถานการณ์หมอกควันตามธรรมชาติ ก่อนที่กรมควบคุมมลพิษ จะออกมาอธิบายความจริง และชี้ให้เห็นว่านี่เป็นสัญญาณเตือนอันตราย ให้ผู้มีปัญหาสุขภาพหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน ตามรายงานข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ( คลิกอ่านข่าวประกอบ : กรมควบคุมมลพิษ ยืนยันท้องฟ้ากทม.มัวเป็นผลจากฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ไม่ใช่หมอกอย่างเข้าใจ # เตือนระวังกระทบสุขภาพ!?? )
ล่าสุด กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 พบว่ากลับมามีค่าเกินมาตรฐานอีกครั้ง โดยปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 48-67 มคก./ลบ.ม. เกินเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 4 สถานี ได้แก่ บริเวณแขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง , ริมถนนพระราม 4 , ริมถนนอินทรพิทักษ์ และริมถนนลาดพร้าว ประเด็นสำคัญมีสัญญาณบ่งชี้ ว่าปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกพื้นที่
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่ กทม. มีเมฆเป็นส่วนมาก และอากาศเย็นในตอนเช้า มีความชื้นสูง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 °C อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 °C อุณหภูมิสูงสุด 31-32 °C ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ฝุ่นละอองมีโอกาสสะสมเพิ่มขึ้นได้
สำหรับสภาพอากาศในขณะนี้ มีคำเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายภายนอกอาคาร บุคคลทั่วไปโดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ไม่ควรทำกิจกรรมภายนอกอาคารเป็นเวลานาน
หากเป็นไปได้ควรใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากอาคาร และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการกำกับดูแลกิจกรรมต่างๆที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองในพื้นที่ ทั้งการเผา การก่อสร้าง การใช้ยานพาหนะ เพื่อที่จะช่วยลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ลงได้ ทั้งนี้ คพ.จะเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะได้แจ้งให้สาธารณชนทราบเพื่อจะได้ป้องกันและดูแลตนเองไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อไป
ก่อนหน้านั้น (29 ม.ค. 2561) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ออกมาตอบโต้กรณีที่มีเว็บไซต์แห่งหนึ่งคำนวณสภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 61 แล้วระบว่ามีฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินค่ามาตรฐานในทุกพื้นที่ถึงระดับ 54 – 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) และฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 138 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พร้อมระบุอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพนั้น ว่าในความจริงแล้วเป็นการคำนวณจากสภาพอากาศเพียง 1 ชั่วโมงมาตรวจวัดเท่านั้น ซึ่งตามปกติในการตรวจวัดสภาพอากาศจะนำค่าฝุ่นละออง 24 ชั่วโมงมาคำนวณ อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศทั่วพื้นที่และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ภาพ FB กรมควบคุมมลพิษ