- 07 ก.พ. 2561
ติดตามรายละเอียด FB : DEEPS NEWS
จากกรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) พร้อมพวกอีก 3 คน ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมอาวุธปืนและซากเสือดำ ถูกชำแหละและถลกหนัง และใช้เกลือโรยในซากสัตว์ ต่อมาศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนั้น
ซึ่งต่อมานายสมบัติ จะกรำ พนักงานราชการ ตำแหน่งคนงาน ของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับเปิดผู้สื่อข่าวของรายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอัมรินทร์ว่า เส้นทางจุดชมวิวเนินสวรรค์ ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สามารถผ่านขึ้นไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรได้ดังกล่าว และยังมีอีกสองเส้นทาง ได้แก่ หมู่บ้านพุทโธ-บ้านห้วยเสือ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และอีกเส้นทางคือ น้ำตกเอราวัณ น้ำตกแม่ขมิ้น อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
นายสมบัติ จะกรำ พนักงานราชการ ตำแหน่งคนงาน ของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
โดยจุดนี้ถือเป็นด่านตรวจ มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ 2 นาย ตลอด 24 ชั่วโมง ทำหน้าที่ตรวจตรารถที่ผ่านเข้าออก เพื่อป้องกันผู้ลักลอบตัดไม้ และผู้ที่เข้ามาล่าสัตว์ป่า โดยเฉพาะรถต้องสงสัยทางเจ้าหน้าที่ จะมีการตรวจตราเป็นพิเศษ นายสมบัติ ยังบอกด้วยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เคยตรวจพบรถที่นำอุปกรณ์ดักสัตว์ป่าเข้ามา 2 ครั้ง แต่เป็นแค่ “แร้ว” ซึ่งเป็นอุปกรณ์เอาไว้ดักไก่ป่า แต่ยังไม่เคยตรวจค้น
แล้วพบอาวุธปืน
และล่าสุดทางด้านนางผ่องศรี ศรีมูล น้องสาวของนายธานี ทุมมาศ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้ ได้เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบข่าวว่า พี่ชายถูกจับกุม รู้สึกตกใจมาก และไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น โดยตนไม่สามารถติดต่อพี่ชายได้ นางผ่องศรีเปิดเผยอีกว่า เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว นายเปรมชัย ชอบมาเดินป่า และให้พ่อของตน ซึ่งเป็นนายพราน นำทางเข้าป่า โดยมีนายธานี พี่ชายตน มักจะติดตามพ่อ และนายเปรมชัย เข้าป่าไปด้วยทุกครั้ง
ขณะเดียวกัน นางผ่องศรี บอกว่า เวลาที่นายเปรมชัย เข้าป่ามักไปส่องสัตว์ รวมถึงสำรวจเส้นทางเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในการทำธุรกิจ ไม่ได้ชอบล่าสัตว์แต่อย่างใด แต่มีบางครั้งที่ได้เก้ง หรือไก่ป่า ออกมา โดยเจ้าตัวไม่ได้นำกลับบ้าน แต่ได้ให้ครอบครัวตนใช้ประกอบอาหาร นายผ่องศรี ยืนยันว่า พี่ชายตัวเองไม่ได้ชอบล่าสัตว์ แต่คาดว่าสาเหตุที่เข้าป่าไปกับนายเปรมชัย น่าจะถูกคนขับรถ ของนายเปรมชัย ชักชวนเพราะสนิทกัน ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าพี่ชาย ยิงเสือดำจริงหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบ พี่ชายไม่ชอบล่าสัตว์ รวมถึงไม่มีอาวุธปืนเป็นของตัวเอง และตนไม่มั่นใจว่า พี่ชายจะใช้ปืนเป็นหรือไม่ ส่วนนายเปรมชัย สมัยที่เข้าป่ากับพ่อตน มักจะใช้ปืนลูกซองของพ่อ ที่มีอยู่ประมาณ 5-6 กระบอก แต่ตอนนี้ ปืนดังกล่าวถูกขายไปหมดแล้ว พร้อมยอมรับว่า เรื่องคดีความตนยังไม่ทราบว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะต้องรอปรึกษากับทางญาติเพื่อหาทางช่วยเหลือพี่ชาย
นางผ่องศรี ศรีมูล น้องสาวผู้ต้องหา
ขอบคุณรายการ : ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34