หวั่น..เรือประมงเกยตื้น (ส้ม ฟ้า) หลักฐานทางประวัติศาสตร์เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ "พัง" หลังโครงสร้างไม้เริ่มหลุดจนเรือเอียง (คลิป)

 

วันที่ 8 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากที่ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(สมัยนั้น) ได้เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล 3 ศาสนา ครบรอบ 12 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ และเปิดโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิ เรือประมงเกยตื้น (ส้ม ฟ้า) บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อเดือน ธันวาคม 2559 ซึ่งเรือทั้งสองลำ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ จากเหตุการณ์ ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ที่บอกเล่าเป็นเรื่องราว เหตุการณ์ภัยพิบัติ

 

 

ล่าสุด พบการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิ เรือประมงเกยตื้น (ส้ม ฟ้า) ได้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการปรับระดับพื้นที่ โครงสร้างฐานรากของอาคารต่าง ๆ ในทางกลับกันพบ เรือสีส้ม และ เรือสีฟ้า ซึ่งเป็นโครงการส่วนแรกที่ภาครัฐได้ใช้งบประมาณในการจัดซื้อเรือทั้ง 2 ลำ ไปก่อนหน้าเพื่อเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ได้มีความเสียหายผุพังของโครงสร้างไม้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรือสีฟ้าเริ่มมีการเอียงตัว หลังจากแผ่นไม้และโครงสร้างไม้เริ่มหลุดออกอย่างต่อเนื่อง มีต้นไม้และไม้เลื้อยขึ้นเต็มลำเรือ ส่วนเรือสีส้มก็พบว่าเริ่ม อุปกรณ์ส่วนควบเริ่มมีการหัก ไม้บริเวณท้องเรือเริ่มแตกและหลุด ซึ่งหากปล่อยเอาไว้เช่นนี้ต่อไป อาจเกิดความเสียหายต่อตัวเรือทั้ง 2 ลำจนไม่สามารถใช้งานได้อีก

 

 

 

ส่วนสาเหตุในการก่อสร้าง พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิ เรือประมงเกยตื้น (ส้ม ฟ้า) นั้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรม ซึ่งเสนอความรู้เชิงศิลปวัฒนธรรม สังคม สถาปัตยกรรมพื้นถิ่น และวิถีชีวิตชาวบ้าน ที่เน้นศักยภาพการพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชน และส่งเสริมการท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ในเหตุการณ์สึนามิ ที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ และเป็นสถานเตือนใจให้ระลึกถึงเหตุการณ์คลื่นยักษ์ที่บ้านน้ำเค็ม เป็นศูนย์เตือนภัยหลบภัย

 

 

โดยแบ่งการดำเนินงานแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ช่วงแรกได้ทำการจัดซื้อเรือประมง 2 ลำ (เรือส้มฟ้า) ที่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดมาเกยตื้น กลางชุมชนบ้านน้ำเค็ม บนที่ดินจำนวน 5 ไร่ ซึ่ง อบต.บางม่วง ได้จัดซื้อไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนระยะที่ 2 เป็นการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่ได้รับงบประมาณให้ดำเนินการในปี 2560 ผูกพัน 2561 เป็นจำนวน 64.8 ล้านบาท โดยปี 2560 ได้เริ่มใช้เงินจำนวน 12.8 ล้านบาท และจะใช้อีก 52 ล้านบาทในปี 2561

 

 

 

สำหรับพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิแห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นอนุสรณ์สถานจากเหตุการณ์พิบัติภัยสึนามิเท่านั้น แต่จะเป็นหอเตือนภัยและพื้นที่หลบภัย ทั้งยังเป็นสถานที่จารึกรายชื่อผู้ที่ประสบภัยพิบัติในครั้งนั้นบนผนังโลหะด้านนอกอาคาร ส่วนภายในเป็นศูนย์ข้อมูลด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของบ้านน้ำเค็ม และพื้นที่ใกล้เคียง

 

 

รวมทั้งจัดให้มีพื้นที่สำหรับร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับพี่น้องบ้านน้ำเค็ม ลักษณะของตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ ได้มีการผสมผสานภูมิทัศน์วัฒนธรรมพื้นถิ่น รูปทรงอาคาร ได้แนวคิดจากอุปกรณ์ทำกินในวิถีชีวิตประจำวันของชาวบ้าน ซึ่งประกอบอาชีพประมงเป็นส่วนใหญ่ อาทิ สุ่ม ไซ รอบ การออกแบบเน้นให้อาคารมีความโปร่งโล่งแข็งแรงและสอดคล้องกับสภาพภูมิทัศน์โดยรอบและเป็นฉากหลังที่ประกอบเรื่องราวของเรือทั้งสองลำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้รูป ของพิพิธภัณฑ์แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนหลักหลัก ได้แก่ ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง โดยนำซากเรือที่พบในเหตุการณ์ภัยพิบัติมาแสดง ส่วนภูมิทัศน์และพืชพรรณมีความเป็นเอกลักษณ์ ทำให้รู้สึกสงบและความเคารพในสถานที่ และศูนย์บริการข้อมูล มีลักษณะเปิดโล่ง สำหรับกิจกรรมของชุมชน และเป็นแหล่งท่องเทียว

 

 

ข่าว/ภาพ วรรณศิริ โพธิ์พันธ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนกข่าวทีนิวส์ จ.พังงา