- 11 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวเพิ่มเติม Facebook : Deeps News
จากกรณีหวย 30 ล้านบาท ถูกโอนสำนวนคดีจากตำรวจภูธรภาค 7 มาอยู่กับ กองบังคับการปราบปราม โดย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ได้เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนแล้ว ขณะที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พาลูกความเปิดเผยสื่อ และนำหลักฐานออกมาแฉแบบวันต่อวัน โดยเปิดเผยคลิปเสียงระบุว่า หวย 30 ล้านไม่มีจริง และหลักฐานข้อความแชตไลน์ ที่แม่ค้าบอกว่า "ไม่รู้ใครถูกหวย" มาเปิดเผยและได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
โดยเมื่อวานนี้พบว่า เจ๊บ้าบิ่น ไม่ได้มาขายขนมที่ตลาดข้างสถานีขนส่งกาญจนบุรีแต่อย่างใด ทีมข่าวรายการทุบโต๊ะข่าว จึงเดินทางไปที่บ้านพัก ซึ่งก็พบว่าบ้านถูกปิดล็อก สอบถามเพื่อนบ้าน ระบุว่า ไม่เห็นเจ๊บ้าบิ่นตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ส่วนลูกชายคาดว่าน่าจะกลับไปทำงานที่กรุงเทพแล้ว และไม่ทราบว่าเจ๊บ้าบิ่น หายไปไหนแต่คาดว่าน่าจะไปอยู่กับญาติ
โดยปกติ เจ๊บ้าบิ่น เป็นคนขยันทำงาน และต้องออกไปขายขนมบ้าบิ่น และลอตเตอรี่ทุกวัน ซึ่งการที่เจ๊บ้าบิ่นหายตัวไปตนก็ไม่ทราบเหตุผล ส่วนตัวทราบข่าวเรื่องหวย 30 ล้าน แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างใคร และไม่กล้ายืนยันว่า เจ๊บ้าบิ่นพูดความจริง หรือโกหกเพราะไม่สนิทกัน
ทีมข่าวจึงเดินทางไปพูดคุยกับ น.ส.ปณัญชยา สุขพูล หรือเจ๊เกียว ผู้ค้าลอตเตอรี่ ซึ่งอ้างว่าเห็นการซื้อขายล็อตเตอรี่ระหว่างเจ๊บ้าบิ่น กับครูปรีชา โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ตนยังสามารถติดต่อเจ๊บ้าบิ่นได้ เพราะช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ๊บ้าบิ่นได้ให้น้องสาวมารับลอตเตอรี่จากตน และยืนยันว่าไม่ได้ถูกกองปราบรวบตัวตามที่มีกระแสข่าว
เจ๊เกียว กล่าวว่า สาเหตุที่เจ๊บ้าบิ่น ไม่กลับบ้าน เพราะอาจจะรู้สึกเหนื่อยและไม่อยากตอบคำถามผู้สื่อข่าว ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีฝั่งใดฝั่งหนึ่งรับสารภาพแล้ว เจ๊เกียวกล่าวว่า เป็นการโกหก สร้างเรื่อง และยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่ครูปรีชา จะรับสารภาพเพราะครูปรีชาเป็นเจ้าของลอตเตอรี่
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักครูปรีชา ใน ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้าตัวได้สวมหมวกแก็ป ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พร้อมระบุว่า ตนเพิ่งจะไปย้อมผมเสริมความหล่อมาเพราะกำลังจะออกไปตีกอล์ฟ โดยก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้รับสารภาพออกมาแล้วนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง
รวมทั้งยืนยันว่าตนไม่ได้รับสารภาพใดๆออกไป เพราะตนพูดความจริงตั้งแต่แรก ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจกองปราบ ได้ควบคุมตัวตนไปนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ตนยังสอนหนังสือใช้ชีวิตตามปกติ และเมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากกองปราบ แค่นำตนไปจำลองเหตุการณ์ ไม่ใช่การทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนกรณี เจ๊บ้าบิ่น ตนไม่ได้ติดต่อแต่คาดว่าน่าจะขายของตามปกติ และตอนนี้ไม่ได้รู้สึกกังวลใจ ส่วนที่สังคมมองว่าตอนนี้น้ำหนักทางคดี ค่อนข้างจะเอียงไปทางฝั่งลุงจรูญนั้น ครูปรีชาได้ถามกลับว่า “ใครเป็นคนชั่งน้ำหนัก”
ส่วนเรื่องที่ทนายษิทรา ออกมาแฉเรื่องไลน์นั้นตนยังไม่ทราบ แต่อยากฝากบอกว่า หากมีหลักฐานก็ขอให้เข้ากระบวนการศาล อย่านำออกมาเพื่อให้สังคมเกิดความสับสน ยืนยันว่าตนไม่เคยไปร้องหน่วยงานใดๆ เพราะใช้ความจริงเป็นเครื่องพิสูจน์ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า สุดท้ายศาลตัดสินอย่างไร ตนก็ยอมรับได้ทั้งหมด ทั้งนี้ครูปรีชาได้ทำท่า ชูสองนิ้ว กับแสดงท่าเบ่งกล้ามใส่กล้องโชว์ผู้สื่อข่าว เพื่อยืนยันว่าตัวเองยังมีความสุขและสบายดี