"ประทิน"เปิดใจรับไม่ได้ตกเป็นจำเลย"ก่อการร้าย"ปัดร่วมชุมนุมปิดสนามบินกับ พธม.

19 ก.พ.61 พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ เปิดบ้านภายในซอยสุขุมวิท 39 แถลงข่าวเปิดใจภายหลังตกเป็นจำเลยคดีก่อการร้าย กรณีการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ที่สนามบินดอนเมือง – สุวรรณภูมิ เมื่อปี 2551 ว่า การชุมนุมนั้นถือว่าเป็นสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญและหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเหตุการณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตนขึ้นเวทีเพียง 5 นาที เพื่อกล่าวขอบคุณผู้ที่เคยร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ ไม่เชื่อการทำสำนวนของตำรวจ  การตั้งข้อหาจึงไม่สมเหตุสมผล  ตนเป็นอดีตอธิบดีกรมตำรวจ จะเป็นผู้ก่อการร้ายได้อย่างไร  ยืนยันว่า ไม่ได้ร่วมเดินขบวนเนื่องจากในช่วงปี 2551 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีปัญหาด้านสุขภาพ 

ด้านนายประยงค์ ไชยศรี ทนายความ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย 2 ประเด็น คือ การชุมนุมของกลุ่ม พธม.ขัดต่อมาตรา 69 มาตรา 70 และมาตรา71 ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ที่ว่าด้วยสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และหน้าที่ของชนชาวไทยหรือไม่ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเคยยกคำร้อง และวินิฉัยว่า การชุมนุมของกลุ่ม พธม. ไม่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง  นอกจากนี้ ยังขอให้ศาลวินิจฉัยว่าการชุมนุมของกลุ่ม พธม. กปปส. และกลุ่มอื่นๆ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนมีหลักฐานเพียงแค่ภาพการขึ้นเวทีเท่านั้นไม่มีหลักฐานอื่น ซึ่งความคืบหน้าของคดีก่อการร้ายขณะนี้มีเพียงการสืบพยานไปเพียง1ปากเท่านั้น 

พล.ต.อ. ประทิน ยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ว่า มีความเรียบร้อย สงบสุขดี ส่วนเรื่องนาฬิกาหรู ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม คิดว่าเป็นเรื่องของบุคคลไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล แต่สิ่งที่อาจจะกระทบคือการบริหารประเทศชาติที่ขาดธรรมาภิบาล เมื่อถามว่า อยากจะฝากอะไรไปยังรัฐบาลชุดนี้ พล.ต.อ.ประทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะฝากโตๆกันแล้ว รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรที่ไม่ควรทำก็อย่าทำ แต่อยากฝากในเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน ที่อยากให้เร่งแก้ไข และเรื่องการปฏิรูปตำรวจ