FB : DEEPS NEWS

จากกรณีนายการกวี สงศรี ที่ปรึกษากลุ่มเรารักชาติ รักเสือดำ พร้อมคณะ เกือบ20 คน สวมหน้ากากเสือดำ เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เพื่อทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวอล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม4 ราย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมกับแจกหน้ากากเสือให้กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นที่ระลึกด้วยนั้น

       ทั้งนี้พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่ากฎหมายมีเพียงมาตรฐานเดียว ไม่มีการดำเนินคดีกับใครสองมาตรฐาน กฎหมายไม่มีคนรวย ไม่มีจน มีแต่ทำผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย  อีกทั้ง คดีนี้ไม่เหมือนคดีทั่วไป ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงต้องรวมรวมพยานหลักฐานอื่นๆให้ครบถ้วน และการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต้องเป็นไปตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ ย้ำว่าคดีไม่ได้ล่าช้า มั่นใจวันที่ 26 มีนาคมนี้ สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการได้ ยืนยันกับประชาชน กับสังคมโซเชียลว่าเสือดำไม่ตายฟรี และในวันพรุ่งนี้ จะเดินทางที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบสำนวนคดี ของนายเปรมชัยและพวก ว่าครบถ้วนหรือไม่ หากครบถ้วนก็จะนำส่งพนักงานอัยการทันที

 

เปรมชัยอ้วก!!!โดนข้อหาหนึ่งโหล?!? ฟังศรีวราห์พูด…ทำไมยังไม่จำเป็นต้องหนี เพราะอะไร!?! แบบนี้แล้วตอนไหนจึงจะถึงเวลา… !?! (มีคลิป)

 

       ส่วนกรณีสังคมโซเชียลเผยแพร่คลิปวิดีโอ ที่มีการเชิญนิติกรของกรมอุทยานฯออกนอกห้องสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ว่า วันนั้นพนักงานสอบสวนนัด นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้ากรมอุทยานฯ มาซักถามประเด็นเพิ่มเติม เกี่ยวกับการแจ้งข้อหานายเปรมชัย ดังนั้นนิติกรจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องหรือร่วมรับฟัง เนื่องจากโดยทั่วไปถ้าจะมีนิติกรร่วมรับฟังก็ต่อเมื่อตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหรือเด็กเท่านั้น แต่นายวิเชียร ไม่ใช่ผู้ต้องหา แต่มาให้ปากคำในฐานผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายเปรมชัย จึงไม่จำเป็นต้องมีนิติกร

 

       สำหรับกรณีที่นายเปรมชัย ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย หลังจากมีกำหนดการเดินทางต่างประเทศนั้น รองผบ.ตร. กล่าวว่า การเดินทางเข้าออกประเทศ ออกไปแล้วจะเข้ามาหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวน เพราะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสิ้นสุดทุกขั้นของตำรวจแล้ว คือฝากขังต่อศาลไปแล้ว อำนาจอยู่ที่ศาล ไม่ได้อยู่ที่พนักงานสอบสวน และในวันที่14 มีนาคม พนักงานสอบสวนได้ออกหมายให้มารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งเรื่องอาวุธปืน ครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย และพยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน โดยการแจ้งข้อกล่าวทั้งหมดหลายคดี และเชื่อมั่นว่าพนักงานอัยการจะสั่งฟ้องทุกข้อหาเช่นกัน สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ส่วนกรณีที่สังคมเกรงว่านายเปรมชัยจะหลบหนีนั้น ตราบใดที่ศาลยังไม่ถึงชั้นฎีกา เชื่อว่าไม่มีความจำเป็นต้องหลบหนี

 

เปรมชัยอ้วก!!!โดนข้อหาหนึ่งโหล?!? ฟังศรีวราห์พูด…ทำไมยังไม่จำเป็นต้องหนี เพราะอะไร!?! แบบนี้แล้วตอนไหนจึงจะถึงเวลา… !?! (มีคลิป)

 

       อย่างไรก็ตามโดยสรุปตอนนี้นายเปรมชัย ถูกแจ้งข้อหาในพื้นที่ สภ.ทองผาภูมิ 9 ข้อหา ปปป.แจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหา และ ปทส. แจ้งอีก 2 ข้อหา รวมทั้งสิ้นตอนนี้นายเปรมชัย ถูกแจ้งไปแล้ว 12 ข้อหา ส่วนประเด็นที่ว่าทำคดีล่าช้า ยืนยันว่าไม่ล่าช้าเพราะต้องทำงานตามหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ และยังมีเวลาอีก 7 ผัด ให้พนักงานสอบสวนพิจารณาอีก 3-4 ปาก ส่วนใครจะหาว่าตนทำงานช้าก็ไม่สามารถห้ามได้ พร้อมยืนยันถึงแม้ผลดีเอนเอไม่มีได้แต่มีหลักฐานพยานอื่นก็สามารถเอาผิดนายเปรมชัยได้

 

เปรมชัยอ้วก!!!โดนข้อหาหนึ่งโหล?!? ฟังศรีวราห์พูด…ทำไมยังไม่จำเป็นต้องหนี เพราะอะไร!?! แบบนี้แล้วตอนไหนจึงจะถึงเวลา… !?! (มีคลิป)