- 14 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ทันทีที่มีการเปิดจดทะเบียนพรรคการเมืองและได้ปรากฏชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นแน่นอนทุกสายตาจับจ้องมาที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบ เนื่องจากคาดว่าจะเป็นพรรคที่จัด ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อหลังจากการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่กำลังจะถึง ..
แต่เนื่องจากชื่อพรรคเป็นพรรคพลังประชารัฐ ข่าวสารจึงมีน้ำหนักออกมาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เจ้าของนโยบาย “ประชารัฐ” ที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนอยู่ในขณะนี้ โดยมีกระแสข่าวว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นหัวหน้าพรรคและมีพลเอกประยุทธ์ เป็นประธานที่ปรึกษาโดยไม่ต้องลงเลือกตั้งแต่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อ13 มี.ค. กรณีการจัดตังพรรคพลังประชารัฐว่า "ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรสักอย่างกับพรรคพลังประชารัฐ ก็รู้จากหนังสือพิมพ์ " เมื่อถามว่า ถ้าจำเป็นต้องตัดสินใจ จะเลือกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ และจะรับนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่รู้เหมือนกัน และวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีใครเชิญตนไปนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาพรรคเลย มีแต่พูดกันไป และตนจะตัดสินใจอย่างไรก็ไม่ทราบเช่นกัน ขอเวลาทำงานในส่วนของตนไปก่อน การเมืองยังมีเวลาว่ากันต่อไป
อีกด้านหนึ่งน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าในเส้นทางการจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปของพลเอกประยุทธ์นั้นยังจะมี บรรดาทหารที่ผูกพันกันไม่ว่าจะเป็นพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ หรือพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่รองจากบูรพาพยัคฆ์ ซึ่งวันนี้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นั้นจะมีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ก็ยังไม่ปรากฏความชัดเจน
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึง ว่า หากถามมุมมองของตน ยังไม่ทราบ เพราะถือว่าเรื่องจะเล่นการเมืองหรือไม่เป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ตนไม่ทราบเรื่อง แต่อย่างไรก็ตาม เห็นว่าไม่ว่าใครก็ตามหากต้องการจะไปรับใช้ประเทศชาติ ถ้ามีความสามารถก็เป็นได้ แต่ตนไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปเป็นหรือไม่เป็น ไม่ทราบ
อีกคนหนึ่งซึ่งจะไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คือพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ ซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนสนิทมากจนนายกฯเคยเอ่ยว่าซึ่งการปรับครม.ทุกครั้งจะมีการจับตาว่าพลเอกฉัตรชัยจะหลุดโผลหรือไม่. แม่ล่าสุดจะหลุดออกจากตำแหน่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่ท้ายที่สุดก็ยังอยู่รอดติดโผและได้ ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวถึงว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ ซึ่งอาจเป็นแค่เพียงกระแสข่าวเท่านั้น หรือเป็นแค่เรื่องที่พูดกันไปเองเท่านั้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็มีจุดยืนของตัวเอง จึงอยากให้ดูข้อเท็จจริง พร้อมปฏิเสธว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัว กับ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในฐานะ 1 ใน 15 ผู้จดจองชื่อพรรคพลังประชารัฐ แต่ยอมรับว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน ส่วนหากพรรคดังกล่าวจะทาบทามตนเองให้ร่วมเป็นสมาชิกด้วย พล.อ.ฉัตรชัย ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ตนเองสนใจ
ก็เป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องติดตามว่าบรรดาเพื่อนและพี่น้องในกองทัพจะเอาอย่างไรจะให้การสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ต่อไปหรือไม่อย่างไร