สงครามลุกเป็นไฟ..!! กองปราบแฉข้อมูล แผนพยานครูปรีชาไม่ธรรมดา เร่งสอบมีนายใหญ่ ระดับตร.ระดับบิ๊กหนุน..!!?? (รายละเอียด)

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ (16/03/2561) พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าหวย 30 ล้านบาท โดยยอมรับว่า การออกมาแจ้งความและฟ้องศาลดำเนินคดีกับตำรวจของ นายฐนุกร หรือแผน เหลืองใหม่เอี่ยม พยานฝั่ง นายปรีชา ใคร่ครวญ นั้น กองปราบฯ กำลังตรวจสอบว่า มีเบื้องหลังหรือไม่ ส่วนกรณีที่ข่าวออกมาว่า นายแผนมีความสนิทสนมกับนายตำรวจเมืองกาญจนบุรีนั้น ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้นักข่าวน่าจะรู้ดีกว่าตนด้วยซ้ำ


"ทราบว่าเขาจะเดินทางไปฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แต่ก็ไม่อยากเอาหมายเรียกไปให้เขา เพราะถ้าเอาหมายเรียกไปยัดใส่มือตรงนั้นเขาก็จะมองว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคามเขา ขอบอกเลยว่า นายแผนไม่ใช่คู่กรณีกับตำรวจกองปราบปราม และหากเขาจะฟ้องตนและ ผบช.ก.นั่นก็เรื่องของเขาที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย" พล.ต.ต.ไมตรี กล่าว

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวต่อว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไรก็ทำงานไปตามปกติ เพราะตำรวจไม่ได้เป็นศัตรูกันกับนายแผน ส่วนหมายเรียกนั้นก็ส่งไปที่บ้านเขาตามปกติ ซึ่งหมายเรียกครั้งแรกนั้นได้ส่งไปที่บ้านนายแผน เพื่อให้เขามารับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 15 มี.ค.61 ที่ผ่านมา แต่นายแผน ก็ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากนี้ ก็จะให้เจ้าหน้าที่เร่งออกหมายเรียกครั้งที่สองไปที่บ้านเขาอีกครั้ง หากเขายังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกครั้งที่สอง หรือไม่มีเหตุผลพอสมควรที่จะขอเลื่อนมาพบเจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาออกหมายจับตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนของกองปราบฯ กำลังตั้งข้อสังเกตุว่า เพราะเหตุใด นายแผน ที่มีอาชีพป็นคนขับรถ ซึ่งแทบไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคดี เนื่องจากเป็นเพียงพยานแวดล้อมของคดี ถึงออกมาจงใจตระเวนฟ้องร้องตำรวจชุดสืบสวนไปแทบทุกที่ไม่ว่าจะเป็น สภาทนายความ ตำรวจท้องที่ สน.บางยี่ขัน และล่าสุด คือที่ศาลคดีทุจริตฯ ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตุว่า การวนเวียนร้องทุกข์ร้องเรียนของ นายแผน อาจจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เนื่องจากมีนายตำรวจพยายามเชื่อมให้มีความสนิทสนมกับตำรวจใหญ่ใน จ.กาญจนบุรี และคดีหวยนี้ ก็ทำให้ตำรวจ จ.กาญจนบุรี ไม่มีความน่าเชื่อถือ จนต้องโอนคดีมาที่กองปราบฯ จนทำให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ต้องถูกดำเนินคดีตาม กม.อาญา มาตรา 157 ด้วย