คนไทยทุกภาคเชียร์ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็น นายกรัฐมนตรี หลังเลือกตั้ง ทิ้งห่าง "หญิงหน่อย-อภิสิทธิ์" !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

หลังจากการปรากฏตัวขึ้นของพรรคพลังประชารัฐ และมีข่าวว่าเชื่อมโยงกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.  หรือเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้การสนับสนุนพล.องประยุทธื เป้นนายกรัฐมนตรีต่อไป ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่น่าสนใจว่าจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินจอย่างไรในทางการเมืองต่อไปข้างหน้า

 

เมื่อนิด้าโพล ที่ได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-16 มี.ค.61 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ ปรากฏว่าทุกกลุ่มเมื่อถามว่าบุคคลที่ประชาชนที่อยากให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน 10 อันดับแรกเป็นใคร พบว่า เป็น “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” สูงถึงร้อยละ 38.64 ส่วนชื่อที่มีติดตามมา ก็เป็นชื่อของ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง2ชื่อ ก็มาตามพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค ที่มีพื้นที่และเป็นที่รู้จักของประชนอยู่ใน ขณะนี้ ก็คือ “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคประชาธิปัตย์”

 

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อไปดูตามภาค ชัดเจนว่าภาคกลางและปริมณ พล.อ.ประยุทธ์ คะแนนความนิยมนำลิ่ว  อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ 42.07% อันดับ 2 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์(พรรคเพื่อไทย) 10.06% และนายอภิสิทธิ์ 8.84%

 

ภาคเหนือ อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ 31.70% อันดับ 2 คุณหญิงสุดารัตน์ 19.64 และนายอภิสิทธิ์ 11.16%

 

ที่ต้องจับตามมองเป็นอย่างยิ่ง คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน ที่เป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยแท้ๆ ปรากฏว่า อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์นำถึง  41.19% ส่วน อันดับ 2 คุณหญิงสุดารัตน์ 16.87% และอันดับ 3 นายอภิสิทธิ์ได้เพียง 9.43%

 

ภาคใต้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน  อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ 35.96% อันดับ 2 จี้ตามมาติดๆนายอภิสิทธิ์ 27.53% และอันดับ 3 นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี 14.04%

 

นี่คือคะแนนนิยมตามรายภาค และยิ่งไปดูตามกลุ่มอายุ พบว่า  อายุ 18- 25 ปี ยังคงเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอันดับ 1 ตามด้วยนายอภิสิทธิ์ และนายชวน ,

อายุ 26-35 ปี ก็ยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ตามมาด้วย นายอภิสิทธิ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ , 

อายุ 36-45 ปี อันดับ 1 ยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ตามมาด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ และนายอภิสิทธิ์ ในสัดส่วนที่เท่ากัน โดยอันดับ 3 เป็นนายชวน ,

อายุ 46-59 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ยังครองอันดับ 1 ตามมาด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ และนายอภิสิทธิ์ , 

อายุ 60 ปีขึ้นไป ยังเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ตามมาด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ และนายอภิสิทธิ์

 

หากไปดูทางด้านกลุ่มการศึกษา พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังมาเป็นอันดับ 1 ในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นในชั้นประศึกษาหรือต่ำว่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ มาอันดับ 1 ตามมาด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ และนายอภิสิทธิ์ , 

มัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า อันดับ 1 ยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ตามมาด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ และนายอภิสิทธิ์ ,

อนุปริญญาหรือเทียบเท่า พล.อ.ประยุทธ์ , นายอภิสิทธิ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ , 

ระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (พรรคอนาคตใหม่) และนายอภิสิทธิ์ 

และระดับสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ ตามมาด้วย นายอภิสิทธิ์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์และนายธนาธร

 

กลุ่มอาชีพ ไม่ว่าข้าราชการ ลูกจ้างและพนักงานรัฐวิสาหกิจยังคงเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ตามมาด้วยนายอภิสิทธิ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ 

พนักงานเอกชน ยังเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ตามมาด้วยคุณหญิงสุดารตัน์ 

จ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ เลือก พล.อ.ประยุทธ์ ตามาด้วย คุณหญิงสุดารัตน์และนายธนาธร โดยนายอภิสิทธิ์อยู่อันดับ 3

 

กลุ่มภาคการเกษตร /ประมง พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงตามมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ และนายอภิสิทธิ์ ,

 รับจ้างทั่วไป พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นอันดับ 1 ตามาด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ และนายอภิสิทธิ์ , 

พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน ยังคงเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ตามด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ และนายอภิสิทธิ์ 

ส่วนนักเรียน/นักศึกษานั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังคงครองใจ ตามด้วยนายอภิสิทธิ์ และนายชวน

 

พอมาดูกลุ่มรายได้ พบว่า ผู้ไม่มีรายได้ , รายได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน และรายได้ 10,001-20,000 บาท เลือก พล.อ.ประยุทธ์ อันดับ 1 ตามด้วยนายอภิสิทธิ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ เหมือนกัน

 

ส่วนผู้มีรายได้ 20,001-30,000 บาท อันดับ 1 ก็ยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ตามด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ และนายอภิสิทธิ์ โดยมีนายธนาธรอยู่ดันดับ 3 ส่วนรายได้ 30,0001-40,000 บาท พล.อ.ประยุทธ์ มาอันดับ 1 ตามด้วยนายอภิสิทธิ์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และผู้มีรายได้ 40,001 ขึ้นไป เลือก พล.อ.ประยุทธ์ , คุณหญิงสุดารัตน์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตามลำดับ

 

ข้อมูลดังกล่าวนี้น่าสนใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะคิดอย่างไรในการตัดสินใจ ในอนาคตทางการเมืองข้างหน้า จะยืนอยู่ในจุดเพียงแค่ ให้พรรคพลังประชารัฐประกาศสนับสนุน หรือ มาสู่ทางเลือกที่สอง ที่ให้พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเข้าสู่ทางเลือกที่สาม  เป็นหัวหน้าพรรคเองและให้พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ เป็นนายรัฐมนตรี

 

แน่นอนในฐานะหัวหน้าคณะคสช. และนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่สามารถที่จะเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง และผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นทางการเมือง ต่อไป