พระบารมี..พระเจ้าเสือ!! แนะคาถาบูชา "สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ" เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ลาภมาก แคล้วคลาดปลอดภัย ชนะศัตรู เมตตามหานิยม !!

คาถาบูชา พระเจ้าเสือ เพื่อความเป็นสิริมงคลเเก่ผู้ที่สวด

พระบารมี..พระเจ้าเสือ!! แนะคาถาบูชา "สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ" เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ลาภมาก แคล้วคลาดปลอดภัย ชนะศัตรู เมตตามหานิยม !!

 

           สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ หรือคำให้การชาวกรุงเก่าว่า สมเด็จพระสุริเยนทราธิบดี เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๒๙ แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระองค์ที่สองแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ พ.ศ. ๒๒๔๖ - พ.ศ. ๒๒๕๑ ผู้คนในสมัยพระองค์มักเรียกขานพระองค์ว่า พระเจ้าเสือ เพื่อเปรียบว่า พระองค์มีพระอุปนิสัยโหดร้ายดังเสือ พระองค์ทรงมีพระปรีชาด้านมวยไทย โดยทรงเป็นผู้คิดท่าแม่ไม้มวยไทย ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏชัดเจน และได้มีการถ่ายทอดเป็นตำราให้ชาวไทยรุ่นหลังได้เรียนรู้ฝึกฝนจนถึงปัจจุบัน

 

พระเจ้าเสือ

รูปปั้นพระเจ้าเสือ

           

             สมเด็จพระเจ้าเสือได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กรับราชการเป็นที่ โปรดปรานของสมเด็จพระนารายณ์ ต่อมาได้ตำแหน่งเป็นหลวงสรศักดิ์ สมัยสมเด็จพระเพทราชา หลวงสรศักดิ์ให้รับสถาปนาเป็นพระมหาอุปราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคล และได้ขึ้นครองราชสมบัติต่อจากพระเพทราชา พระนาม สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘

             มีพิธีราชาภิเษก พ.ศ. ๒๒๔๖ ทรงมีพระราชโอรส ๒ พระองค์ คือ เจ้าฟ้าเพชร (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ) และเจ้าฟ้าพร (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) มีพระสมัญญานามว่า "เสือ" ตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งเป็น หลวงสรศักดิ์ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมาแล้ว ทรงมีความเด็ดขาดในการมีรับสั่งให้ผู้ที่ปฏิบัติงานใดต้องสำเร็จผลเป็นอย่างดี หากบกพร่องพระองค์จะมีรับสั่งให้ลงโทษ ไม่เฉพาะข้าราชบริพารเท่านั้น แม้พระราชโอรสทั้งสองก็เช่นกัน อย่างเช่น ในการเสด็จไปคล้องช้างที่เมืองนครสวรรค์ มีรับสั่งให้เจ้าฟ้าเพชรและเจ้าฟ้าพรตัดถนนข้ามบึงหูกวาง โดยถมบึงส่วนหนึ่งให้เสร็จภายในหนึ่งคืน พระราชโอรสดำเนินงานเสร็จตามกำหนด แต่เมื่อเสด็จพระราชดำเนิน ช้างทรงตกหลุม ทรงลงพระราชอาญาเจ้าฟ้าเพชร แต่ภายหลังก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ

 

รูปภาพระเจ้าเสือ

 

             ส่วนเรื่องพันท้ายนรสิงห์ และเรื่องที่พระองค์ออกไปชกมวยที่แขวงเมืองวิเศษไชยชาญนั้น เป็นเรื่องราวที่ถูกแต่งเติมขึ้นภายหลัง ปรากฎครั้งแรกในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับสมเด็จพนรัตน์ และขยายความโดยพิสดารเป็นตำนานพันท้ายนรสิงห์ที่เรา คุ้นเคยกันดีในพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ซึ่งชำระในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ และถูกทำให้คิดว่าเป็นเรื่องจริงจนถึงปัจจุบัน

คาถาบูชาพระเจ้าเสือ

 

คาถาบูชาสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ 

ตั้งนะโม ๓ จบ (ตั้งจิตอธิษฐานระลึกถึงสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ)

อิติจิตตัง เอหิ เทวะตาหิ จะมะหาเตโช นะระปูชิโต
โสระโส ปัจจะยา ทิปปะติ พยัคฆะพุทธะสะโร มะหาราชา
เมตตา จะกะโรยัง มะหาลาภัง สะทาโสตถี ภะวันตุ เม
นะเมตตา โม กรุณา พุท ปราณี ธา ยินดี ยะ เอ็นดู
อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะฯ

 

เชื่อว่า หากได้บูชาพระพุทธเจ้าเสือแล้ว จะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง สิ่งดีๆจะเกิดแก่ชีวิต สิ่งใดที่คิดจะได้สมใจปรารถนา ลุล่วงไปได้ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ แคล้วคลาดปลอดภัย มีเสน่ห์ เมตตามหานิยม จะเกิดแก่ผู้ที่ศรัทธา

 

(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง พระเจ้าเสือ!! ทรงสั่งประหารทั้งน้ำตา.."พันท้ายนรสิงห์"ผู้เปี่ยมด้วยความซื่อสัตย์ จงรักภักดี..ผู้คนนิยมบนบาน ท่านจะโปรดตีไก่และชกมวย!!)

 

(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง อัศจรรย์ยิ่ง!! เมื่อ "หลวงปู่ขวัญ" พบ "ดวงพระวิญญาณพระเจ้าเสือ" บอกปริศนา "ควายสองตัวหันหัวชนกัน" ที่ซ่อนสมบัติของพระองค์ให้เป็นทุนสร้างพระ)