- 16 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ตามติดประเด็นร้อนว่าด้วย กรณีที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ได้รับการร้องทุกข์จาก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. กล่าวโทษในคดีทุจริตเงินทอนวัดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่วัดต่างจังหวัด และพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น กระทั่งมีรายงานข่าวล่าสุด ผอ.สำนักพุทธฯ ได้ดำเนินการแจ้งหลักฐานเพิ่มเติมต่อปปป.เพื่อกล่าวโทษพระเถระผู้ใหญ่เพิ่มเติมอีกจำนวน 5 รูปตามรายละเอียดที่นำเสนอไปก่อนหน้า ( คลิกอ่านข่าวประกอบ : พงศ์พรมาแล้ว!!! ไม่ไว้หน้าใคร?!? ฟัน5พระชั้นผู้ใหญ่คดีโกงเงินทอนวัด เจ้าคณะกรุงเทพฯ 3กรรมการมส. เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯโดน!!! )
ล่าสุดในเฟสบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อประเด็นข่าวที่กำลังเป็นกระแสในขณะนี้ว่า "แม้นึกว่าคดีทุจริตเงินทอน จะเจอตอทำให้สะดุดหยุดลงเสียอีก ... ๑๖ เมษายน ๒๕๖๑ มีข่าว พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เดินทางไปพบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับกรรมการมหาเถรสมาคมบางคน ที่มีส่วนเข้าไปพัวพันการทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรมและบาลี รวมทั้งงบเผยแผ่ มูลค่าความเสียหาย ๗๐ ล้านบาท การกระทำเข้าข่ายผิดทางคดีอาญา และยังเข้าข่ายปาราชิก ข้อว่ายักยอกทรัพย์เกิน ๕ มาสก อีกต่างหาก
ที่น่าสนใจ คือ มีนักบวชระดับเจ้าคุณชั้นพรหมเป็นเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง และเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค ทั้งยังมีกรรมการมหาเถรสมาคมอีกด้วย ซึ่งก็คือ
๑. พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
๒. พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค ๔-๗
๓. พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะภาค ๑๐
๔. พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ
๕. พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ
พอได้เห็นข่าวนี้ ทำให้รู้สึกโล่งใจ เพราะนี่คือการพิสูจน์ว่าสิ่งที่พุทธะอิสระพูด พุทธะอิสระสู้มาตลอดหลายปีนั้น สามารถพิสูจน์ได้ทุกเมื่อ จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ทีนี้พวกบรรดากองเชียร์ของพวกกรรมการมหาเถรสมาคมเหล่านี้ คงจะตาสว่างกันขึ้นมาบ้าง หากยังมีจิตสำนึก มีปัญญาแยกแยะถูกผิดดีชั่ว คงจะคิดได้ว่า จะมัวเอาแต่ปกป้องคนผิด คนชั่ว หรือจะปกป้องความบริสุทธิ์ บริบูรณ์ของพระธรรมวินัย ลองถามใจตัวเองดูกันบ้าง มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่คนดีๆ พระดีๆ จะช่วยกันลุยล้างบาง พวกนักบวชอลัชชีที่เข้ามาอาศัยผ้าเหลืองหากินกันอยู่ ทำไมถึงปล่อยให้พุทธะอิสระสู้อยู่คนเดียว ทั้งที่สิ่งที่ได้มาจากการสู้มันก็คือ ประโยชน์ของพุทธบริษัททุกคน
นี่แค่หนังตัวอย่าง ยังมีอีกเพียบ หากจะช่วยกันล้างบาง ยังไงงานนี้ ต้องให้เครดิต พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักพุทธ ที่กล้าหาญเลือกความถูกต้อง มากกว่าเลือกความถูกใจ และช่วยชำระล้างความสกปรกในวงการผ้าเหลืองแทนพระภิกษุผู้ปกครอง ผู้มีหน้าที่โดยตรงแต่กลับไม่ทำอะไรเลย ขออนุโมทนาที่ท่าน ผอ.สำนักพุทธและ ปปป. , คสช. ช่วยกันทำให้พระธรรมวินัยกลับมาเป็นที่มุ่งหวังได้ โดยไร้ข้อกังขาใดๆจากผู้ศรัทธา คนชั่วต้องถูกกำจัด คนดีพระดี ต้องได้รับการกราบไหว้บูชา ซึ่งมันควรจะเป็นเช่นนี้มานานแล้ว"