สะท้านทั้งมหาเถรฯ?! "5 พระเถรานุเถระ" เอี่ยวโกงเงินทอนวัด แต่ละรูปล้วนนั่งทับเก้าอี้"ผู้ปกครองสงฆ์" แต่กลายเป็น"พวกปากว่าตาขยิบ"เสียเอง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

สั่นสะเทือนทั้งมหาเถรฯ หลัง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ “คดีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 3” กับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ในช่วงก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเอาผิดวัดดังในเขตกรุงเทพฯ ถึง 3 แห่ง จำนวน 4 คดี ซึ่งมีชื่อ “พระเถระชั้นผู้ใหญ่” เกี่ยวข้องถึง 5 รูป ซึ่งนั่นนับว่าสั่นสะเทือนวงการผ้าเหลืองอยู่ไม่น้อย...เพราะแต่ละรูปนั้นถือเป็นระดับ “พระสังฆาธิการ” ผู้ปกครองคณะสงฆ์ที่ชาวบ้านนับหน้าตาถือพากันกราบไหว้มานานนับสิบ ๆ ปีทั้งสิ้น


รายชื่อของ 5 พระมหาเถรฯ ได้ถูกสื่อทุกสำนักเปิดเผยออกไปหมดแล้ว ซึ่งประกอบไปด้วย พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร , พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7  , พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 , พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และสุดท้ายพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ โดย 5 ท่านเจ้าคุณล้วนโดนข้อหาหนัก กระทำความผิดอาญาคดีเกี่ยวกับการทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม  แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรม และแผนกบาลี และงบเผยแพร่ศาสนา มีความเสียหายทั้งสิ้น 70 ล้านบาท

 

ข่าวยังแจ้งด้วยว่า ความจริงล็อตที่ 3 ที่ "พ.ต.ท.พงศ์พร ผอ.สำนักพุทธฯ" ส่งข้อมูลให้ บก.ปปป. ไต่สวนนั้นมีด้วยกันถึง 10 วัด แต่เบื้องต้นแจ้งความก่อน 3 วัด เหลืออีก 7 วัด ค่อยว่ากันหลังสงกรานต์อาจจะเป็นวันที่ 19 เม.ย.นี้  ซึ่งที่เหลือจะเป็นคดีใหม่ และบางประเด็นจะมีการเจาะลึกลงไปถึงงบประมาณในแต่ละวัดที่ยังเหลืออยู่ในขณะนี้ และอาจก่อให้เกิดปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นมาได้อีกทุกเมื่อ

ขณะที่ "พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา"  ผบก.ปปป. ได้เปิดเผยเรื่องนี้ด้วยตนเองว่า  บก.ปปป.ได้ส่งสำนวนทั้งหมด 4 สำนวน ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้วตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว  ดังนั้น ขณะนี้อำนาจการสอบสวนจึงอยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช. แล้ว ส่วนกรณีของการฟอกเงินนั้น จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. ที่จะต้องรับไม้ต่อไปขุดคุ้ยเส้นทางการเงิน...ซึ่งก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากเท่าใดนัก เพราะปากแผลที่ "พ.ต.ท.พงศ์พร ผอ.สำนักพุทธฯ" เปิดไว้ให้นั้น...นับว่าเหวอะหวะ และคงตามต่อได้ไม่ยาก

ว่าไปแล้ว หากพิจารณากันจากข้อมูลข้อเท็จจริง "5 เจ้าคุณ" ที่ "ผอ.พงศ์พร" ร้องทุกข์กล่าวโทษเอี่ยวโกงเงินทอนวัดนั้น ล้วนแต่มีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ “พระธัมมชโย” อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายที่เจ้าตัวเองก็มัวหมอง-ด่างพร้อย ในเรื่องยักยอกทรัพย์-อมที่ดินของวัดไปเป็นสมบัติส่วนตัว กระทั่งถูกแจ้งดำเนินคดีจนต้องหลบหนีไป (ตั้งแต่ต้นปี 2560) เช่นกัน

โดยเฉพาะ "พระพรหมดิลก" หรือ "เจ้าคุณเอื้อน" แห่งวัดสามพระยา รวมทั้ง "พระพรหมเมธี" หรือ “เจ้าคุณจำนงค์” แห่งวัดวัดสัมพันธวงศ์ และ "พระพรหมสิทธิ" หรือ "เจ้าคุณธงชัย" แห่งวัดสระเกศฯ นั้น ต่างก็นั่งทับตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษา "โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน 100,000 รูป" ด้วยกันทั้ง 3 นอกจากนี้ เจ้าคุณทั้ง 3 ยังเป็นเสียงที่แข็งขันที่ลงมติไม่ให้ “ธัมมชโย” ต้องอาบัติปาราชิก....กรณีอมที่ดินวัดฯ อีกด้วย


จริงไม่จริงแค่ไหน..."เจ้าคุณเอื้อน” ก็เคยประกาศว่า “ประเทศไทยจะขาดธัมมชโยไม่ได้" เล่นเอานักข่าวที่ทำข่าวเกาะติดในเรื่องนี้ "งงเป็นไก่ตาแตกมาแล้ว" เหตุนี้เมื่อ "ผอ.พงศ์พร" เปิดรายชื่อพระเถรานุเถระทั้ง 5 ออกมาหลายคนจึงไม่รู้สึกแปลกใจนัก...เพราะแต่ละรูปล้วนคาบลูกคาบดอก...ส่อว่าจะด่างพร้อยหรือไม่ด่างพร้อยต่อกรณีนี้มาก่อนหน้าแล้ว

เหนืออื่นใดก็ คือ รายชื่ออีก 7 วัดที่เหลือนั้น จะมีชื่อ “พระเถระผู้ใหญ่” พัวพันอีกกี่อีกหรือไม่ เพราะลำพังแค่นี้ก็...ด่างพร้อยจนชาวบ้านเบือนหน้าหนีกันอย่างหนักแล้ว...เพราะแต่ละรูปเป็นถึงระดับ “พระสังฆาธิการ” ที่ปกครองคณะสงฆ์อย่างกว้างขวางใหญ่โต ที่ชาวบ้านต่างนับหน้าตาถือพากันกราบไหว้มานานนับสิบ ๆ ปีอย่างที่กล่าวทั้งสิ้น


และจากนี้ต้องรอดูว่า “ที่ประชุมใหญ่มหาเถรฯ” จะมีมติและก้าวย่างอย่างไรต่อกรณีนี้ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่สั่นสะเทือนทั้งวงการพระพุทธศาสนา หรืออาจจะให้วิธีการเดิมที่มหาเถรฯ ถนัด...นั่นคือเล่นบท "เตมีย์ใบ้ หรือไม่ก็ "อุ้มกระเตงพวกเดียวกันต่อไป...จนชาวบ้านพากันเบือนหน้าหนีมาหลายต่อหลายครั้ง และนั่นอาจเป็นผลักให้เกิดวิกฤตศรัทธาที่มีต่อวงการผ้าเหลืองขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้