ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ผู้ว่าสุราษฎร์จี้ลงตรวจโรงงานปล่อยสารเคมีลงน้ำทำสัตว์น้ำตายยกคลองพร้อมขีดเส้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องสรุปสาเหตุและดำเนินการเอาผิดผู้ประกอบการภายใน 3 วัน และ 7 วันโรงงานต้องปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียชั่วคราวให้แล้วเสร็จ และภายใน 4 เดือนต้องจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐานหากเพิกเฉยเตรียมดำเนินการโทษสูงสุด

 

ผู้ว่าสุราษฎร์จี้ลงตรวจโรงงานปล่อยสารเคมีลงน้ำทำสัตว์น้ำตายยกคลองพร้อมขีดเส้น3วันต้องสรุปเหตุ7วันโรงงานต้องปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย(มีคลิป)

จากกรณีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองตาล ม.8 ต.เวียงสะ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี สุดทนโรงงานลักลอบปล่อยสารเคมีลงคลองตาล ส่งผลให้น้ำเน่าเสียและทำให้สัตว์น้ำทุกชนิดตายยกคลองระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตรรวมตัวแจ้งนายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล นายอำเภอให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับผู้ประกอบการที่เป็นต้นเหตุ   ล่าสุดวันนี้  นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานีพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมกับเดินทางไปตรวจสอบที่โรงงานเกร็ดแก้ว ซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำแข็ง ตั้งอยู่ หมู่ที่ 1 ต.เวียงสระ ที่สงสัยเป็นต้นเหตุมีสารเคมีรั่วไหลลงคลอง โดยผู้ประกอบการได้ยอมรับว่าเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 ได้เกิดอุบัติเหตุมีสารแอมโมเนียรั่วไหล จากท่อทำความเย็นของโรงงาน ทางคนงานได้ใช้น้ำฉีดล้างสารแอมโมเนียจึงได้ไหลลงคูระบายน้ำและไหลไปในคลองเป็นเหตุให้มีปลาตายจริง และ จากการตรวจสอบโรงงานดังกล่าวไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งผู้ประกอบการประชุมด่วนเพื่อหาทางแก้ไข  โดยกำหนดสั่งการให้ทางโรงงานไปดำเนินการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียชั่วคราวให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และให้จัดทำดำเนินการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐานใช้เวลาการดำเนินการไม่เกิน 4 เดือน พร้อมสั่งการให้นายบุญสิทธิ เรืองผล อุตสาหกรรมจังหวัดเข้าตรวจสอบระบบทำความเย็นทั้งหมด และให้เทศบาลเวียงสระร่วมกับผู้ประกอบการดำเนินการกำหนดแนวทางฟื้นฟูระบบนิเวศและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำทุกชนิดเพื่อเร่งฟื้นฟูสัตว์น้ำที่ตายไป

 

ผู้ว่าสุราษฎร์จี้ลงตรวจโรงงานปล่อยสารเคมีลงน้ำทำสัตว์น้ำตายยกคลองพร้อมขีดเส้น3วันต้องสรุปเหตุ7วันโรงงานต้องปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย(มีคลิป)

ในขณะเดียวกันได้ มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งรวมตัวมายื่นหนังสือต่อ            นายวิชวุทย์  จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยระบุว่า ขณะนี้มีหลายร้อยครัวเรือนที่อาศัยอยู่ริมคลองตาลกำลังได้รับความเดือดร้อนหนัก เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูแล้งฝนทิ้งช่วง น้ำในลำคลองมีน้อยและเกิดการเน่าเสีย ทำให้ขาดน้ำใช้ในการอุปโภค บริโภค และน้ำใช้ในภาคการเกษตร จึงขอทางราชการเร่งช่วยเหลือ และขอให้โรงงานยุติและย้ายไปประประกอบการที่อื่นโดยอ้างว่า  “ เราชาวบ้าน ( ซอยวิภาวดีรังสิต 18) ไม่ต้องการให้โรงน้ำแข็งผลิตนำแข็งต่อไปอีกแล้ว เนื่องจากตอนนี้มีปัญหาที่เกิดมีหลายปัญหา 1,ทำให้สิ่งแวดล้อมสียหายน้ำเสียปลาตาย 2, ปัญหาแรงงานพม่า 3,ปัญหาการจอดรถริมถนนทำให้การจราจรไปมาไม่สะดวก 4,คนงานส่งน้ำแข็งขับรถไม่มีมารยาท 5,ปัญหาจากการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาผลิตน้ำแข็งทำให้พื้นดินทรุดตัว น้ำแห้งชาวบ้านไม่มีน้ำใช้เพียงพอ และขอให้เป็นดรงงานสีขาว ”   ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้ไกล่เกลี่ยให้ทุกฝ่ายอยู่กันได้ โดยขอให้โรงงานนำข้อติติงจากชุมชุมไปปรับปรุงดำเนินการแก้ไข ซึ่งผู้ประกอบการได้ยอมรับเสนอจากชุมชนและรับปากจะนำไปปรับปรุงแก้ไข และชาวบ้านก็รับข้อเสนอจากโรงงาน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายพอใจชาวบ้านจึงแยกย้ายกันกลับไป 

 

ผู้ว่าสุราษฎร์จี้ลงตรวจโรงงานปล่อยสารเคมีลงน้ำทำสัตว์น้ำตายยกคลองพร้อมขีดเส้น3วันต้องสรุปเหตุ7วันโรงงานต้องปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย(มีคลิป)

 

ด้านนายบุญสิทธิ เรืองผล อุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานีเปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 23 นี้ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะเข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวอย่างละเอียด หากพบเป็นความประมาทของผู้ประกอบการ ไม่ใช่อุบัติเหตุตามคำกล่าวอ้างก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  

 

ผู้ว่าสุราษฎร์จี้ลงตรวจโรงงานปล่อยสารเคมีลงน้ำทำสัตว์น้ำตายยกคลองพร้อมขีดเส้น3วันต้องสรุปเหตุ7วันโรงงานต้องปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย(มีคลิป)

 

ภาพ/ข่าว   ณัฐธิดา   เริ่มฤกษ์   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.สุราษฎร์ธานี