อย่าคิดว่าถอดใจ?! "พงศ์พร" ไม่หวั่นรังสีอำมหิต-เดินหน้าลุยแก๊งงาบอีก 7 วัด...เรื่องนี้ปล่อยให้ "มือปราบอลัชชี-สู้อยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ได้"

 

จนถึงขณะนี้นับว่าเห็นหน้าเห็นหลัง และรู้ว่าใครเป็นใครกันบ้างแล้ว สำหรับกรณีที่ "ผอ.สำนักพุทธฯ พงศ์พร  พราหมณ์เสน่ห์" ออกมาร้องทุกข์กล่าวโทษ "5 พระมหาเถรฯ" ชื่อก้องแห่งวงการดงขมิ้น เอี่ยวโกงเงินทอนวัดล็อต 3 กับกองบังคับการป้องกันปราบปรามฯ หรือ บก.ปปป. ในช่วงก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเรื่องนี้นับว่าสั่นสะเทือนวงการผ้าเหลืองเป็นอย่างยิ่ง เพราะเจ้าคุณทั้ง 5 นั้น แต่ละรูปถือเป็นระดับ “พระสังฆาธิการ” ผู้ปกครองคณะสงฆ์ที่มีอำนาจกว้างขวางทั่วราชอาณาจักร และชาวบ้านนับหน้าตาถือพากันกราบไหว้มานานนับสิบ ๆ ปีทั้งสิ้น

 

เรื่องนี้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย เพราะต่อให้ไม่ใช่คนสนใจในปัญหาบ้านเมือง...ยังมองออกได้ไม่ยากว่า...วงการผ้าเหลืองนั้น...มัวหมองและด่างพร้อยแค่ไหน แล้วยิ่งเกิดกับ “พระสังฆาธิการ” ที่เปรียบได้กับฝ่ายปกครอง และเป็นผู้ถือกฎเพื่อเอาไว้ชำระสะสางให้คณะสงฆ์สะอาดบริสุทธิ์...แต่กลับกลายเป็นผู้พัวพันทุจริตเสียเอง...เรื่องนี้จึงทำให้ชาวบ้านเบือนหน้าหนี และตั้งคำถามกันอย่างมากมายกว้างขวาง....ว่าเกิดอะไรขึ้นกับวงการสงฆ์...เกิดอะไรขึ้นกับ...พระระดับเจ้าคุณ...ที่ควรเป็นแบบอย่างให้แก่สังคม...แต่กลับปล่อยให้กิเลสเข้าครอบงำเช่นนั้น...

 

 

แม้ในทางกฎหมาย...เจ้าคุณทั้ง 5 ที่ถูกกล่าวโทษ...จะยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และเส้นทางของการไต่สวนอาจเนิ่นนานระดับ...ทำให้คนลืม แต่ในทางสังคมเรื่องนี้นับว่า...สุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาตามมาได้ไม่ยาก..หากมหาเถระสมาคม หรือ มส. อันเปรียบได้กับต้นสังกัดใหญ่ของเจ้าคุณทั้ง 5 ยังคงเล่นบท "เตมีย์ใบ้" ที่ตนถนัด หรือไม่ก็ "อุ้มกระเตง" พวกเดียวกันไป...แบบเตี๊ยอุ้มคร่อม....โดยไม่แยแสความรู้สึกชาวบ้าน

ยิ่งวงในพูดกันว่า บรรยากาศที่ประชุม มส. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่ง พ.ต.ท.พงศ์พร ต้องเผชิญหน้ากับ 5 เจ้าคุณเป็นครั้งแรก หลังดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษบรรยากาศไม่สู้จะดีนัก เพราะว่ากันว่าในวงประชุม...ได้แผ่รังสีกดดัน "พ.ต.ท.พงศ์พร" อย่างหนัก แม้จะไม่ผ่านทางคำพูดก็ตาม นั่นยิ่งทำให้เรื่องนี้เป็นที่จับตาของทุกฝ่าย และถึงแม้หลังการประชุม 1 ใน 5 เจ้าคุณที่ถูกกล่าวโทษ จะได้มีการพูดคุยกับ "ผอ. พงศ์พร" ในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่ต่างจะเลี่ยงนักข่าวออกไป...แต่นั่นก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า "มีรอยปริแยกที่ยากจะประสานกันอยู่" จริง

เรื่องนี้จริงไม่จริงแค่ไหน ก็ดูจากกรณีที่ "พระธรรมกิตติเมธี" หรือ “เจ้าคุณเกษม”  ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส ในฐานะประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ซึ่งผู้เกาะติดทางการเมืองมานานต่างรู้ดีว่า มีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ "วัดปากน้ำและธรรมกาย” แค่ไหนออกมาขู่ฟ่อ ๆ ว่า "การกระทำของ พ.ต.ท.พงศ์พร ไม่เป็นที่สบอารมณ์ของพระ และขืนเป็นแบบนี้บานปลายแน่ๆ"

คำขู่ของ “เจ้าคุณเกษม” ดูจะทำให้ก้าวย่าง พ.ต.ท.พงศ์พร แต่ละก้าวล้วนต้องรอบคอบ และรัดกุมขึ้น ทำให้หลังการประชุมวันนั้น แม้เขาจะออกมาให้ข่าวแก่นักข่าวในฐานะเลขาธิการ มส. แต่ก็กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยหรือสอบถามประเด็นการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 3 แต่อย่างใด ขณะนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการดำเนินการทางกฏหมาย และหากต้องการทราบข้อมูลให้ไปถามกับ ปปป.หรือ ป.ป.ช. และการเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษของตนนั้น เป็นการทำตามหน้าที่ของ ผอ.พศ. ไม่มีอคติแต่อย่างใด

 

"ขณะนี้ยังไม่มีผู้กระทำผิด เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญ บัญญัติไว้ว่า ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิด" พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าว

 

ว่ากันว่าท่าทีของ "ผอ.พงศ์พร" ที่รับหน้าเสื่อตั้งโต๊ะแถลงการณ์ในวันนั้นดูอึดอัดไม่น้อย เพราะใครต่างก็รู้ดีว่า "เจ้าคุณทั้ง 5 นั้น" อยู่ในระดับใหญ่โตแค่ไหน และถ้าจะพูดว่า โยงใยไปถึงสำนักจานบิน และมีกลุ่มการเมืองสีแดงบางปีก...ที่พร้อมจะทำอะไรก็ได้หนุนหลังอยู่ก็คงจะไม่ผิดนัก....ดังที่ “เจ้าคุณเกษม” ก็เปิดหน้าชกให้เห็นแล้ว...และนั่นเองเป็นเหตุให้หลายฝ่ายมองกันว่า ที่เนื้อหาการแถลงของ ผอ.พงศ์พร ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดมากนัก เพียงแต่ยืนยันว่า เป็นการทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีอคติใด ๆ...ก็มาจากความรู้สึกอึดอัด...และคลับคล้ายคลับคลาว่า...จะสู้ศึกใหญ่แห่งวงการสงฆ์อยู่อย่างโดดเดี่ยวของเขานี่แหล่ะ...

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะดูเหมือนโดดเดี่ยว และเผชิญศึกหนัก แต่  พ.ต.ท.พงศ์พร กลับไม่ยี่หระในสิ่งเหล่านั้น ล่าสุดวันนี้ (23 เม.ย.)  พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ บก.ปปป. ออกมาเปิดเผยว่า พ.ต.ท.พงศ์พร ได้เข้าแจ้งความ และมอบเอกสารหลักฐานวัดที่เข้าข่ายพบการทุจริตในล็อตที่ 3 ที่เหลืออีก 7 แห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ปริมณฑล และต่างจังหวัด ตั้งแต่ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว

 

โดย พล.ต.ต.กมล ระบุว่า ในส่วนของ ป.ป.ป.ขณะนี้ยังไม่ได้เซ็นรับสำนวนดังกล่าว และยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม คาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้ (23 เม.ย.) จะสามารถส่งสำนวนให้กับ ป.ป.ช. รับไปตรวจสอบดำเนินคดีต่อไปได้

 

ถ้อยคำของ พล.ต.ต.กมล นับว่าน่าสนใจยิ่ง เพราะเท่ากับเป็นการยืนยันว่า พ.ต.ท.พงศ์พร นั้นไม่เคยถอดใจในสิ่งที่ตนเองกระทำ แม้จะมีรังสีอำมหิตแผ่คุกคามเพียงใด...และเริ่มมีการพูดกันหนาหูว่า...เขานั้นอาจจะยอมยกธง หลังขอเลื่อนการนัดเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษในนล็อตที่ 3 อีก 7 วัดที่เหลือแบบไม่มีกำหนด ก่อนจะหายเงียบไป แต่เมื่อ พล.ต.ต.กมล ออกมายืนยันในเรื่องนี้...นั่นก็เท่ากับว่าทุกอย่างชัดเจนแล้ว....พ.ต.ท.พงศ์พร ยังพร้อมจะลุย "แก๊งอลัชชี" ที่อาศัยคราบผ้าเหลืองหากิน...เพียงแต่ว่า...คราวนี้สังคมไม่ควรปล่อยให่เขาสู้อยู่อย่างโดดเดี่ยว