เสียวสันหลังแทน?! ระทึก"ป.ป.ช." รับลูกสอบเพิ่ม 5 เจ้าคุณเอี่ยวโกงแล้ว ยันคงไม่ชักช้า-บางอย่างใช้พยานหลักฐานเดิมได้

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

เสียวสันหลังแทน?! ระทึก "ประธาน ป.ป.ช." เผยเริ่มสอบเพิ่ม 5 เจ้าคุณเอี่ยวโกงแล้ว ยันคงไม่ชักช้า เหตุบางอย่างใช้พยานหลักฐานเดิมได้

 

วันนี้ (23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีตรวจสอบทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ซึ่งมีพระชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้องจำนวน 5 รูป ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้

โดยประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะข้อมูลในสำนวนที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ส่งมานั้นยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากมีเวลารวมรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพียง 30 วัน ซึ่งทาง ป.ป.ช.เห็นว่ายังไม่ชัดเจนก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

 

"ตามระเบียบของ ป.ป.ช.จะมีกรอบเวลาในการแสวงหาข้อมูล 6 เดือน หากยังทำไม่เสร็จเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวนจะขอขยายเวลาได้อีก 3 เดือน หากยังทำไม่เสร็จก็จะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อขอขยายเวลาอีก 3 เดือน" ประธาน ป.ป.ช.ระบุ ทั้งยังกล่าวด้วยว่า แต่หลังจาก 1 ปี หากรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จก็จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อให้คณะกรรมการลงไปดำเนินการ ทั้งนี้คิดว่าหากรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จเร็วเจ้าหน้าที่ก็คงจะส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา คงไม่ชักช้า ส่วนทางเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลเต็มกรอบเวลาหรือไม่นั้น จะต้องรอดูพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้อมูลทางการเงิน เรื่องการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเราต้องรอบคอบเพราะคดีดังกล่าวเกี่ยวกับบุคคลสำคัญ

       
ส่วนจะต้องเชิญ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของผู้รับผิดชอบ อาจจะเป็นการขอข้อมูลไป หรือเป็นการสอบปากคำพยานผู้เกี่ยวข้อง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ส่วนจะสามารถใช้หลักฐานเดิมจากคดีเงินทอนวัดที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้มาประกอบการพิจารณาได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานนั้นๆ บางอย่างก็สามารถใช้พยานหลักฐานเดิมได้