ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

           เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 คณะทายาทแฝดสยามอิน-จัน ทายาทรุ่นที่ 3, 4, 5 รวม 12 คน (และผู้ติดตาม 2 คน) พร้อมด้วย ศรัณย์ เจริญสุวรรณ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ และ นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 63 รูป

 

ทายาทแฝดสยาม..คืนถิ่น!! รำลึกครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดอิน-จัน สานความสัมพันธ์ 185 ปี ไทย-สหรัฐ!! (ชมคลิป)

 

           เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดสยามอิน-จัน เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ที่ อนุสรณ์สถานแฝดสยามอิน-จัน ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของฝาแฝดสยามอิน-จัน บรรพบุรุษ

 

 

 

           หลังจากนั้นร่วมปลุกต้นอินจันข้างอนุสรณ์สถาน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "อิน-จัน" และเปิด "ถนนอินจัน" ข้างอนุสรณ์สถาน ริมถนนเอกชัย เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการ คณะทายาทแฝดอิน-จัน ได้พบปะพูดคุยกับ "ครูสงัด ใจพรหม" ศิลปินพื้นบ้าน ชาวสมุทรสงคราม ผู้ปั้นอนุสาวรีย์แฝดสยามอิน-จัน พร้อมกับมอบรูปปั้นจำลองแฝดสยามเป็นที่ระลึกให้อีกด้วย

 

ทายาทแฝดสยาม..คืนถิ่น!! รำลึกครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดอิน-จัน สานความสัมพันธ์ 185 ปี ไทย-สหรัฐ!! (ชมคลิป)

 

           โดยคณะทายาทส่วนใหญ่ไม่เคยเดินทางมาประเทศไทยเลย และรู้สึกตื้นตันที่ได้มาเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนของบรรพบุรุษ และประทับใจในการต้อนรับ ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน "คืนถิ่นบรรพบุรุษแฝดสยามอิน-จัน" ซึ่งจัดขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ในโอกาสครบรอบ 185 ปี และช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวภายในจังหวัดสมุทรสงครามให้เป็นที่รู้จักในต่างแดนอีกด้วย

 

ทายาทแฝดสยาม..คืนถิ่น!! รำลึกครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดอิน-จัน สานความสัมพันธ์ 185 ปี ไทย-สหรัฐ!! (ชมคลิป)

 

         สำหรับฝาแฝดอิน-จัน เป็นชื่อของฝาแฝดสยาม ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยเป็นที่มาของคำว่า "แฝดสยาม" เนื่องจากเกิดที่ประเทศสยาม (ประเทศไทย) ฝาแฝดที่มีหน้าอกติดกันและใช้ตับร่วมกัน เป็นฝาแฝดคู่แรกของโลกที่สามารถดำรงชีพเหมือนคนธรรมดาได้ตลอดชีวิต

 

          อิน-จันได้สัญชาติอเมริกันเมื่อปี พ.ศ. 2382 และใช้นามสกุลว่า บังเกอร์ (Bunker) มีลูกหลานสืบตระกูลมาจนถึงทุกวันนี้ ชื่อเสียงของอิน-จัน ทำให้เกิดคำเรียกแฝดตัวติดกันว่า แฝดสยาม (Siamese twins) ตามชื่อเรียกประเทศไทยในเวลานั้น ฝาแฝดอิน-จัน เป็นฝาแฝดที่มีตัวติดกันทางส่วนหน้าอก (บันทึกของชาวตะวันตกบอกว่า เนื้อที่เชื่อมกันระหว่างอกนี้สามารถยืดได้จนทั้งคู่สามารถหันหลังชนกันได้)

 

ทายาทแฝดสยาม..คืนถิ่น!! รำลึกครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดอิน-จัน สานความสัมพันธ์ 185 ปี ไทย-สหรัฐ!! (ชมคลิป)

 

ทายาทแฝดสยาม..คืนถิ่น!! รำลึกครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดอิน-จัน สานความสัมพันธ์ 185 ปี ไทย-สหรัฐ!! (ชมคลิป)

 

           ฝาแฝดอิน-จัน เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2354 ตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ 2 ในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน ที่จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีบิดาเป็นชาวจีนอพยพแต่ครั้งรัชกาลที่ 1 ชื่อ นายที มารดาเป็นคนไทยชื่อ นางนาก (บันทึกของชาวตะวันตกเรียกว่า นก (Nok)) ซึ่งฝาแฝดคู่นี้สามารถเติบโตและใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ แตกต่างไปจากแฝดติดกันคู่อื่น ๆ ที่มักเสียชีวิตหลังคลอดได้ไม่นาน

 

ทายาทแฝดสยาม..คืนถิ่น!! รำลึกครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดอิน-จัน สานความสัมพันธ์ 185 ปี ไทย-สหรัฐ!! (ชมคลิป)

 

 

   

          ตามกฎหมายในเวลานั้น ทั้งคู่ต้องถูกประหารชีวิตเนื่องจากความเชื่อที่ว่าเป็นตัวกาลกิณี แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็หาได้มีเหตุการณ์ใด ๆ ตามความเชื่อไม่ โทษนั้นจึงได้รับการยกเลิก เมื่อทั้งคู่อายุได้แค่ 2 ขวบ บิดาก็เสียชีวิตลงด้วยอหิวาตกโรค ภาระจึงตกอยู่ที่มารดาแต่เพียงผู้เดียว แฝดทั้งคู่จึงช่วยเหลือมารดาเท่าที่เด็กในวัยเดียวกันจะทำได้ เช่น จับปลา ขายน้ำมันมะพร้าว และทำไข่เค็มขาย จนในปี พ.ศ. 2367 ความพิเศษของเด็กทั้งคู่ทราบไปถึงพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นางนากและอิน-จันเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วในปี พ.ศ. 2370 ก็มีพระบรมราชานุญาตให้อิน-จันได้เดินทางร่วมไปกับคณะทูตเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศโคชินไชน่า (เวียดนามในปัจจุบัน)

 

ทายาทแฝดสยาม..คืนถิ่น!! รำลึกครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดอิน-จัน สานความสัมพันธ์ 185 ปี ไทย-สหรัฐ!! (ชมคลิป)

            ในปี พ.ศ. 2367 นายโรเบิร์ต ฮันเตอร์ พ่อค้าชาวอังกฤษ หรือที่คนไทยสมัยนั้นเรียกว่า "นายหันแตร" ได้นั่งเรือผ่านแม่น้ำแม่กลอง และได้พบแฝดคู่นี้กำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ ด้วยความประหลาดและน่าสนใจ นายฮันเตอร์จึงคิดที่จะนำฝาแฝดคู่นี้ไปแสดงโชว์ตัวที่สหรัฐอเมริกา จึงเข้าทำความสนิทสนมกับครอบครัวของฝาแฝดอยู่นานนับปี จนพ่อแม่ของทั้งคู่ไว้วางใจ ในที่สุดนายอาเบล คอฟฟิน กัปตันเรือสินค้า เดอะ ชาเคม (The Sachem) ซึ่งขณะนั้นได้เข้ามาทำการค้าในประเทศไทย ก็เป็นผู้นำตัวคู่แฝดออกเดินทางจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2372 ขณะนั้นอิน-จัน อายุได้ 18 ปี โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 138 วัน จึงถึงเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ และที่นี่เองที่คู่แฝดได้ทำการเปิดตัว ก่อนจะออกเดินทางแสดงทั่วอเมริกาและยุโรปอีกร่วม 10 ปี (เอกสารบางฉบับบอกว่า ไม่ได้เริ่มที่บอสตัน แต่ไปตั้งหลักที่รัฐแคลิฟอร์เนีย) โดยสัญญาที่ทำไว้กับนายฮันเตอร์และนายคอฟฟินสิ้นสุดลงเมื่อทั้งคู่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ โดยในช่วง 2 ปีแรก ทั้งคู่ก็ได้รับส่วนแบ่งค่าตอบแทน แต่ก็มีบางครั้งก็ถูกเอาเปรียบด้วย เมื่อเป็นอิสระทั้งคู่ก็เปิดการแสดงเอง และได้แสดงไปทั่วสหรัฐอเมริกา

 

            จนเมื่ออายุได้ 28 ปี ใน พ.ศ. 2382 (ค.ศ. 1839) ทั้งคู่ก็ได้ลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านแทรปฮิลล์ เขตชานเมืองวิลส์โบโรเคาน์ตีวิลส์ ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา โดยลงทุนซื้อที่ดิน 11 เอเคอร์ พร้อมกับได้เปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกัน โดยมีชื่อว่า เอ็ง-ชาง บังเกอร์  พร้อมกับได้แต่งงานกับหญิงชาวอเมริกัน อินสมรสกับ Sarah Ann Yates  และจันสมรสกับ Adelaide Yates Bunker และมีลูกด้วยกันหลายคน จัน 10 คน อิน 11 คน ซึ่งระหว่างที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตในต่างประเทศนั้น มีความพยายามหลายครั้งจากหลายบุคคลที่จะทำการผ่าตัดแยกร่างทั้งคู่ออกจากกัน แต่ท้ายที่สุดก็มิได้มีการดำเนินการจริง ๆ

 

ทายาทแฝดสยาม..คืนถิ่น!! รำลึกครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดอิน-จัน สานความสัมพันธ์ 185 ปี ไทย-สหรัฐ!! (ชมคลิป)

 

          อิน-จัน หันมาทำเกษตรกรรมไร่ฝ้าย โดยซื้อทาสไว้ใช้ทำงานที่ตัวแกเองทำไม่ได้ โดยต่อมามีทาสอยู่ถึง 33 คน ซึ่งนับว่าร่ำรวยพอสมควร เพราะในสมัยนั้นทาสเป็นทรัพย์สินที่มีราคาพอๆกับที่ดิน และในรัฐที่การมีทาสถูกกฎหมาย ก็มีประชากรเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่มีฐานะพอจะมีทาสไว้ใช้งาน อิน-จันมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาของความขัดแย้งในเรื่องการมีทาสในสังคมอเมริกัน สงครามกลางเมืองอเมริการะเบิดขึ้นใน เดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1861 รัฐนอร์ทแคโรไลนาเป็น 1 ใน 11 รัฐ ที่แยกตัวจากสหภาพเพื่อก่อตั้งเป็น สมาพันธรัฐอเมริกา โดยมีเมืองหลวงที่ริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย คริสโตเฟอร์ลูกชายของจัน และสตีเฟน ลูกชายของอิน ต่างเข้าร่วมรบในกองทัพของสมาพันธรัฐ เมื่อสงครามจบลงและฝ่ายสมาพันธรัฐ (ใต้) แพ้สงคราม คู่ฝาแฝดสูญเสียทรัพย์สินของตนเกือบหมด

 

ทายาทแฝดสยาม..คืนถิ่น!! รำลึกครบรอบ 207 ปี ฝาแฝดอิน-จัน สานความสัมพันธ์ 185 ปี ไทย-สหรัฐ!! (ชมคลิป)

 

         จากบันทึกที่ได้บันทึกไว้ ระบุว่า จัน (คนน้อง) เป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน หุนหันพลันแล่น และชอบดื่มสุราจนเมามาย ขณะที่ อิน (ผู้พี่) กลับมีนิสัยตรงกันข้าม คือ ใจเย็น สุขุมกว่า และไม่ดื่มเหล้า อีกทั้งทั้งคู่เคยทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นชกต่อยกันเองมาแล้วด้วย จากการที่จันผู้น้องนิยมดื่มเหล้าจนเมามายบ่อย ๆ ทำให้เป็นโรคหลายโรค จนในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2417 จันก็เสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจวาย จากนั้นอีกราว 2 ชั่วโมงถัดมา อินก็ได้เสียชีวิตตามไปด้วย ซึ่งจากการชันสูตรและลงความเห็นของแพทย์สมัยใหม่ ระบุว่า อินต้องสูญเสียเม็ดเลือดแดงให้แก่จันที่เสียชีวิตไปแล้ว ผ่านทางเนื้อที่เชื่อมกันที่อก

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟสบุ๊ค ธีรรัฐ เชี่ยวสกุล

                           https://th.wikipedia.org/wiki/อิน-จัน

ขอบคุณภาพจาก : เฟสบุ๊ค Apicharn Panpreecha

ขอบคุณคลิปจาก : เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 3