กลัวจนหัวหด !!? อยู่ยากแล้ว "ครอบครัวกร่าง" เจอสาดน้ำไล่! ...ขึ้นโรงพักขอขมานายตำรวจ ให้ลูกชายบวชล้างซวย (มีคลิป)

จากกรณีวันที่ 11 พ.ค. 2561 เพจดัง แหม่มโพธิ์ดำได้แชร์โพสต์ของเพจ ตนหาข่าว จิตอาสา เป็นเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวครอบครัวหนึ่งซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง โดยหลังพูดคุยไม่ลงตัวหนึ่งในสมาชิกครอบครัวได้เข้าทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ

ครอบครัวนี้จอดรถในที่ห้ามจอดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกใบสั่งให้จึงเกิดความไม่พอใจพากันมารุมต่อว่าเจ้าหน้าที่ด้วยคำหยาบคายและใส่อารมณ์ไม่มียั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่เองพยายามอธิบายอย่างใจเย็นว่าเหตุใดที่ต้องเขียนใบสั่งให้

ทว่าครอบครัวนี้ยังไม่พอใจและต่อว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมหยุดพร้อมบอกอีกด้วยว่ารู้ว่าจอดที่ห้ามจอดแต่ก็จอดเพียงแค่1นาทีเท่านั้น ซ้ำยังไล่เจ้าหน้าที่พร้อมออกปากคาดโทษว่าจะรอดูตรงนี้ว่าเจ้าหน้าที่จะจับคันอื่นด้วยไหม ต้องจับให้หมดไม่งั้นไม่ยอม

ต่อมาได้มีการขุดคลิปเหตุการณ์ต่อจากนั้นที่ทางครอบครัวนี้เดินทางไปยังโรงพักและโวยวายเสียงดังลั่นไม่มีทีท่าสลด ในตอนหนึ่ง น.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล ที่เป็นแม่ได้อ้างว่าตนรู้กฎหมายเพราะจบจากคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ทำให้ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งนั้นมีการตั้งข้อสังเกตุว่า เธอจบนิติศาสตร์จริงไม่ ?? และได้มีชาวเน็ตคนหนึ่งนั้นมีการเข้าไปค้นหาชื่อของ น.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล ในสํานักงานลงทะเบียน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และปรากฏว่าไม่พบชื่อดังกล่าว 

ภายหลังเธอได้สารภาพออกมาว่าตนไม่ได้จบจากคณะและสถาบันดังกล่าวจริงเพียงใช้อ้างเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้นและมักอ้างอย่างนี้เสมอเมื่อเกิดการทะเลาะวิวาทเพื่อข่มคู่กรณีนั่นเอง
 

ล่าสุดวันที่ 16 พ.ค. 2561 ครอบครัวของน.ส.หทัยรัตน์ ได้เดินทางมายังสภ.มาบตาพุด นำกระเช้ามาเข้าพบ ร.ต.อ. วิทยา วุฒิพันธ์ (ตำรวจคู่กรณี) เพื่อขอขมาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางครอบครัวขอให้ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ มาเป็นสักขีพยานการเข้าพบในครั้งนี้เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย

ทางครอบครัวยอมรับว่าเสียใจมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากได้ไปดูคลิปย้อนหลังก็รู้สึกรับไม่ได้อย่างรุนแรงกับพฤติกรรมที่ทำลงไป นอกจากนี้ยังจะให้ลูกชายบวชเพื่อล้างซวยให้กับพ่อแม่ และเป็นการบวชให้กับนายตำรวจคู่กรณีด้วย

ทั้งนี้บนเฟซบุ๊กของทนายรณรงค์ได้เล่าเหตุการณ์หลังเข้าพบว่าทางครอบครัวโดนประชาชนที่มารออยู่หน้าโรงพักสาดน้ำและตะโกนไล่เนื่องจากไม่พอใจกับพฤติกรรมที่ผ่านมาของครอบครัวนี้และไม่เชื่อว่าจะสำนึกจากใจจริงนั่นเอง

รอดดงteenมาอย่างปลอดภัย ...ครอบครัวหัวร้อนขอให้ช่วยมาสังเกตการณ์การขอโทษตำรวจ ส่วนหนึ่งคือเกรงความไม่ปลอดภัย ขากลับก็มีคนมาสาดน้ำไล่อยู่หน้าโรงพัก ส่วนทนายมีคนมารุมถ่ายภาพเลยไม่ได้อยู่ช๊อตนั้น ด้วยความบังเอิญเหมือนรู้งาน

 

 

 

 

ขอบคุณ ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์