ร้อนผ่าวแน่!!! "พยัคฆ์ไพร" รื้อคดีป่าสักพันล้านทางขึ้นเขาใหญ่ ถูกดำเนินคดีแล้ว ยังนำมาขายเปลี่ยนมือไร่ละหลายล้านบาท!!!

ศูนย์ปฎิบัติการป่าไม้ (ศปก.พป) รุกคืบฟื้น3คดีเก่าท้องที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบพบป่าสักโบราณทางขึ้นเขาใหญ่180ไร่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000ล้าน ถูกดำเนินคดีแล้ว ยังนำมาขายเปลี่ยนมือไร่ละหลายล้านบาท

วันที่ 25-26พฤษภาคม2561 ,ภายใต้การอำนวยการโดย ,นายอดิศร นุชดำรงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,นายอรรถพล เจริญชันษารองอธิบดีกรมป่า/หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ,นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันฯ/หัวหน้าชุดพยัครไพร กรมป่าไม้,นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผอ.ศปป.2(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) นายสมชาย อวิคุณประเสริฐ หัวหน้าหน่วยฯนม.1(ปากช่อง) เจ้าหน้าที่หหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอ.ปากช่อง ร่วมกันตรวจตรวจสอบพื้นที่ ตามที่มีผู้ร้องเรียนบริเวณ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราสีมา พื้นที่ของนิคมสร้างตนเองลำตะคลอง เนื้อที่รวมประมาณ 180 ไร่                              

 

ศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดปฎิบัติการเชิงรุก เพื่อบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้สัมฤทธิ์ผลสูงสุด ภายหลังที่มีข้อมูลร้องเรียนถึงนายอดิศร นุชดำรงค์ ผู้ตรวจราชการประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่ามีกลุ่มขบวนการบุกรุกที่ดินในเขตป่าไม้ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ โดยพื้นที่ที่บุกรุกเป็นพื้นที่ที่ถูกดำเนินคดีป่าไม้มาก่อน 3จุดประกอบด้วย
 

 

1.คดีบุกรุกที่ดินเพื่อปลูกบ้านพักตากอากาศหรู พื้นที่3ไร่เศษถูกชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร พร้อมชุดปฏิบัติการ ศปป4.กอ.รมน. เข้าจับกุมเมื่อ กลางปี2557 แต่ภายหลังเมื่อตรวจสอบพบว่าเอกสารสำนวนคดีที่ส่งถึงอัยการสี่คิ้ว ปรากฏออกจาก สภ.กลางดง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2560 แต่เมื่อตรวจสอบกับทางสำนักอัยการสีคิ้ว ตรวจพบว่าเพิ่งได้รับเอกสารเมื่อวันที่16พฤษภาคม2561 ที่ผ่านมา และคดีนี้ผู้ครอบครองก็ยังคงใช้พื้นที่บ้านพักตากอากาศอยู่เหมือนเดิม

2.คดีบุกรุกที่ดินหรู ทางขึ้นเขาใหญ่ กม9 เรื่องเดิมพื้นที่ดังกล่าวถูกตรวจยึดดำเนินคดีแล้วตั้งแต่ปี2554 เนื้อที่40ไร่เศษ แต่ปัจจุบันกลับถูกนายทุนนำมาแบ่งแปลงจัดสรรขายกันมูลค่าหลายสิบล้านบาท คณะเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้าตรวจสอบพบรถแม็คโคร พร้อมรถบรรทุกกำลังทำงาน จึงเข้าตรวจะยึดดำเนินคดีทันที จำนวน2คดี

 

3.คดีบุกรุกป่าสัก184ไร่มูลพันล้านบาท ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมกับชุมชนปลูกไว้ตั้งแต่ปี 2507 จนปัจจุบันมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ต่อมาภายหลังเมื่อปี2515พื้นที่ดังกล่าวได้ถูกประกาศเป็นเขตนิคมลำตะคอง แต่แปลงป่าสักดังกล่าวยังไม่ได้มีการจัสรรที่ดินให้กับผู้ใด ต่อมาภายหลังได้มีกลุ่มทุนได้วางแผนเข้าบุกรุกยึดถือครอบครอง จนเมื่อปี2559 เจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินคดีซึ่งคดียังอยู่ในชั้นการพิจารณาของอัยการๆ และได้มีคำสั่งของจังหวัดนครราชสีมาประกาศให้ ผู้บุกรุกรื้อถอนสิ่งก่อสร้าง และออกไปจากพื้นที่แต่กลุ่มผู้บุกรุกไม่ปฎิบัติตามและนำป้ายมาติดแสดงความเป็นเจ้าของครอบครองพื้นที่ทั้งหมด184ไร่ดังกล่าว

ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพื่อขยายผล ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด ทั้ง3พื้นที่ต่อไป