ตร.ทหาร.ป่าไม้จับ 2 ผู้ต้องหาพร้อม ยึด จยย.11 คันขณะขนไม้พะยูง 53 ท่อนส่งขายชายแดนไทย-ลาว

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

อุบลราชธานี – ตร.ทหารพราน ตชด.และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ร่วมกันจับกุมผู้ลักลอบขนไม้พะยูงใส่ จยย.ส่งขายชายแดนไทย-ลาว 2 คนพร้อมไม้พะยูง 53 ท่อน รถจักรยานยนต์ 11 คัน เมื่อเวลา 05.30น.วันที่ 1 มิถุนายน พ.ต.อ.สมพาน มุทาพร หัวหน้าชุดปฎิบัติการข่าวชายแดน ชุดที่ 1 ตำรวจภูธรภาค 3 ร.อ.ศุภสิทธิ์ คำปลิว ผบ.ร้อยทหารพรานที่ .2609 ร่วมกับ ชุดประสานงานที่ 2 ,ชุด สท.ที่ 8 ,มว.ตชด.2253 ,สภ.บุณฑริก ,สภ.ห้วยข่า,ชุดปฎิบัติการข่าวชายแดน ชุดที่ 1 ตำรวจภูธรภาค 3 และเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ร่วมกันจับกุมตัว นายสมศักดิ์ บุราชรินทร์ อายุ 51 ปี และ นาย สุริยา กัลป์ยานี อายุ 35 ปี พร้อมของกลางไม้พะยูง 53 ท่อน รถจักรยานยนต์ 11 คันที่บริเวณป่าทางขึ้นภูหินด่าง บ้านห้วยเม็ก ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ภายในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยและเป็นพื้นที่ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าบุณฑริก อยู่ ห่างจากแนวเขตชายแดนไทย-ลาวประมาณ 5 กิโลเมตร
 
 
ตร.ทหาร.ป่าไม้จับ 2 ผู้ต้องหาพร้อม ยึด จยย.11 คันขณะขนไม้พะยูง 53 ท่อนส่งขายชายแดนไทย-ลาว
 
ภายหลังสืบทราบว่ามีการลำเลียงไม้พะยูงด้วยรถจักรยานยนต์ไปจำหน่ายให้กับนายทุนชาวจีนที่มารอรับซื้อที่ชายแดนไทย-ลาวบริเวณช่องคำปากั้ง เขตติดต่อกับบ้านห้วยทราย เขตเมืองมน แขวงจำปาสัก ประเทศลาว จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบบริเวณตามที่ได้รับแจ้ง โดยได้ทำการดักซุ่ม ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ดักซุ่มอยู่นั้นได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์จำนวนหลายสิบคันบรรทุกไม้พะยูงวิ่งขึ้นมาตามเส้นทางในป่ามุ่งหน้าไปที่ช่องคำปากั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ออกจากที่ซุ่มแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น กลุ่มคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์พอรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ได้หยุดรถและทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุอาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมได้ 2 คน พร้อมตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ 11 คันที่เบาะหลังใส่ไม้พะยูงรวม 53 ท่อนจึงได้ทำการตรวจยึดนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
 
ตร.ทหาร.ป่าไม้จับ 2 ผู้ต้องหาพร้อม ยึด จยย.11 คันขณะขนไม้พะยูง 53 ท่อนส่งขายชายแดนไทย-ลาว
 
นายธีระยุทธ วงศ์ไพเสริฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง ทหาร ตำรวจ เพิ่มมาตรการปราบปรามสกัดกั้นจับกุม แต่ทางขบวนการมอดไม้ยังมีความพยายามเข้าไปลักลอบตัดไม้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอยและเป็นพื้นที่ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าบุณฑริก นอกจากเป็นแหล่งไม้พะยูงขนาดใหญ่ ยังมีไม้ชิงชันและไม้ประดู่ ซึ่งเป็นไม้ที่ตลาดต้องการสูง และมีราคาแพงมาก กลุ่มตัดไม้ในเขต อ.บุณฑริก จะนำไม้พะยูงและไม้ชิงชัน ไปส่งที่เขตแดนไทย- ลาว ขายให้นายทุนชาวจีนหากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะอยู่ในพื้นที่ป่า ถ้าไม่มีของกลาง ก็จะได้รับโทษแค่ปรับ พรบ.ป่าไม้ คนละประมาณ500 - 1,000บาท จึงทำให้เกิดกลุ่มตัดไม้ใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
 
ข่าว/ภาพ จิรวัฒน์ บุญจอง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดอุบลราชธานี