สิ้นไส้? "หญิงคนสนิท-มหาเถรจำนงค์"จนมุมเปิดปากเส้นทางหนี-มุ่งขึ้นเหนือเพื่อตบตาก่อนวกมานครพนม-ให้หญิงลาวช่วยข้ามโขง-อ้างเที่ยวเชียงขวาง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

สารภาพจนสิ้นไส้?! "สีกา จ. หญิงไทยคนสนิท-มหาเถรจำนงค์" จนมุมยอมเปิดปากเส้นทางหนีหลังถูกรวยบตัววานนี้  แฉสิ้นนั่งรถตู้ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของมหาเถรฯ จากกรุงเทพฯ ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค. โดยมาด้วยกัน 3 คน โดยเบื้องต้นมุ่งขึ้นเหนือเพื่อตบตาบ้านเมือง ก่อนจะวกมาที่ จ.นครพนม แล้วโทร. ให้หญิงชาวลาวช่วยข้ามโขง อ้างพระเถระฯ อยากไปเที่ยวเมืองเชียงขวาง ซึ่งอยู่ตอนเหนือของ สปป.ลาว

 

วันนี้ (2 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การติดตามจับกุมอดีต "พระพรหมเมธี" หรือ "เจ้าคุณจำนงค์" อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัดรายสุดท้ายที่หลบหนีการจับกุมอยู่ และมีรายงานข่าววานนี้ว่า ได้หลบหนีข้ามไปยังแขวงคำม่วน สปป.ลาว ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว  “สีกา จ.” หญิงไทยคนสนิทของมหาเถรจำนงค์ ได้ที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) จ.นครพนม ขณะกำลังเดินทางกลับเข้ามาจากฝั่ง สปป.ลาววานนี้นั้น

 

ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า “สีกา จ.” ยอมเปิดปากรับสารภาพแล้ว โดยเปิดเผยว่าพวกตน  3 คน ประกอบด้วย อดีตพระพรหมเมธี คนขับรถ และตน ได้ใช้รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น Alphard ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มุ่งหน้าไปยังภาคเหนือของไทย ก่อนจะล่องลงมาที่ จ.นครพนม โดยโทรศัพท์ติดต่อ “นางจัน” หญิงชาวลาว ให้มารับข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว โดยอ้างกับนางจันว่าอดีตพระพรหมเมธี อยากเดินทางไปเที่ยวที่เมืองเชียงขวาง อยู่ทางภาคเหนือของลาว นางจัน จึงข้ามมารับบุคคลทั้งสามไป เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา

 

 

ต่อมาสีกา “จ.” บอกกับนางจัน ว่าเป็นห่วงรถตู้ที่จอดตากแดดตากฝนทางฝั่งไทย ให้ใครก็ได้ไปขับไปไว้ที่วัดใดวัดหนึ่ง นางจันอาสาให้ลูกชายข้ามแม่น้ำโขงมาขับรถคันดังกล่าวไปจอดที่ข้างโรงครัววัดป่าสุคนธรักษ์ เหตุที่ให้ไปจอดวัดนี้ นางจันเล่าว่าเพราะรู้จักกับ “พระหนุ่ม” เจ้าสำนักสงฆ์มาก่อน เพราะพระรูปนี้ข้ามไปมาอยู่เป็นประจำ

 

 

กระทั่งทราบข่าวทางโทรทัศน์ว่าอดีตพระพรหมเมธีหนีหมายจับจากประเทศไทย จึงตกใจปรึกษากับญาติๆว่าจะทำอย่างไร หากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาเจอตนอยู่กับสีกา จ. อาจจะติดร่างแหไปด้วย นางจันจึงขอร้องสีกา จ.ให้กลับประเทศไทย โดยจะขับรถข้ามสะพานไทย-ลาว 3(นครพนม-คำม่วน) มาส่งที่ฝั่งไทยในเช้าวันที่ 31 พ.ค.61 ปรากฏว่าเมื่อมาถึงด่าน ตม.ก็ถูกเจ้าหน้าที่ล็อคตัวไปสอบสวน ก่อนจะปล่อยตัวนางจัน พร้อมญาติกลับประเทศลาว หลังสอบปากคำแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ส่วนสีกา จ.ถูกเค้นสอบอย่างหนักจนเปิดปากรับสารภาพดังกล่าว

 

 

ส่วนอดีตพระพรหมเมธี พร้อมคนขับรถ ทาง สีกา จ. อ้างว่ามีคนมารับช่วงต่อ โดยไม่ทราบว่าไปหลบซ่อนอยู่แห่งใด ทางการข่าวทราบว่าสีกา จ. มีสามีซึ่งเป็นคนไทย ทำสัมปทานเหมืองแร่ทองคำอยู่แขวงสาละวัน ทางภาคใต้ของประเทศลาว อาจจะมีส่วนช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธี ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

 

 

อย่างไรก็ตาม ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เดินทางมา จ.นครพนม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.61 แล้ว ขณะที่มีรายงานว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เตรียมขออนุมัติหมายจับคนขับรถของอดีตพระพรหมเมธี จากศาลจังหวัดนครพนม ที่ขณะนี้หลบหนีไปกับเจ้าคุณจำนงค์ด้วย และจะประสานไปยังทางการประเทศลาว เพื่อล่าตัวบุคคลทั้ง 2 กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยต่อไป