ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

สถานการณ์การเมืองคึกคักอีกครั้งบรรดาพรรคการเมืองใหม่ประกาศรุกรบทางการเมืองเต็มขั้น  เริ่มจาก พรรคอนาคตใหม่ กับแนวคิดประชาธิปไตยสุดทาง ที่นำโดย”ธนาธร จึงรุ่งเรืงกิจ” หัวหน้าพรรค ที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆนี้ 

 

พรรคอนาคตใหม่ต้องการปักธงทางความคิด ต้องการเส้นแบ่งพรรคการเมือง เพื่อให้นำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ  โดยเฉพาะกับประโยคเด็ดของนายธนาธร ..

 

“เราไม่ใช่แค่แก้ไข แต่เราจะฉีก ล้มรัฐธรรมนูญ เพื่อออกจากอำนาจที่ไม่ขอบธรรมของคสช.”

 

อีกทั้งพร้อมดำเนินการนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองยุคคสช. ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคมเป็นวงกว้าง 

และล่าสุดกับการเปิดตัว “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” (รปช.) ที่ในวันนี้ (3 มิถุนายน)  ได้มีการจัดประชุมผู้ก่อตั้งและผู้สนับสนุนของพรรค ที่ศาลาดนตรีสุริยเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต  เป็นการเปิดตัวผู้ก่อตั้งพรรคและผู้สนับสนุนของพรรค

 

ทางเลือกทางเดียว?"อ.สุวินัย"ชี้"รวมพลังประชาชาติไทย"ของจริง..ก้าวข้ามความขัดแย้ง-"อนาคตใหม่"แค่เวอร์ชั่น สู้รบเท่านั้น!!

 

โดยมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อธิการวิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต และคาดว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาชิกพรรคให้เป็นหัวหน้าพรรค เป็นผู้กล่าวปาฐกถาพิเศษเปิดตัวพรรค บางช่วงระบุว่า....

 

"เราอยากเห็นพรรค ที่ทุกคนมีความหมาย ทุกสมาชิกมีบทบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มีการทาบทาม ผมเป็นหัวหน้าพรรค จึงขอยืนยันว่า ทำพรรคครั้งนี้ไม่ได้ทำ เพราะอยากเป็นหัวหน้า หรือรัฐมนตรี แต่ทำเพราะต้องการสืบสานแนวทางการปฏิรูปของมวลมหาประชาชน และคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน เพื่อทำพรรคการเมืองใหม่ เป็นการเมืองเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการเมืองเพื่อประชาชน ซึ่งภรรยาก็ให้การสนับสนุน และบุตรชายรวมทั้งหลานสาวก็ร่วมทำงานการเมืองด้วย "

 

ทางเลือกทางเดียว?"อ.สุวินัย"ชี้"รวมพลังประชาชาติไทย"ของจริง..ก้าวข้ามความขัดแย้ง-"อนาคตใหม่"แค่เวอร์ชั่น สู้รบเท่านั้น!!

 

 

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส.เข้าร่วมการเปิดตัวพรรคในครั้งนี้ด้วย และได้ออกมายืนยันอีกครั้งว่า จะไม่รับตำแหน่งผู้บริหารในพรรค หากพรรคได้เป็นรัฐบาลก็จะไม่รับตำแหน่งใด ๆ ในรัฐบาล จะเป็นเพียงผู้ให้คำปรึกษาเท่านั้น 

 

 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางด้าน รองศาสตราจารย์ สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นกับพรรคการเมืองใหม่ อย่างพรรครวมพลังประชาชาติไทย และพรรคอนาคตใหม่ ไว้อย่างน่าสนใจ ในหัวข้อ “ว่าด้วยพรรคที่เป็นทางเลือกของ "มวลมหาประชาชน"ในสถานการณ์ปัจจุบัน” โดย มีเนื้อหาดังต่อไปนี้...

ผมกับอาจารย์สมศักดิ์ เจียม ฯ มองเห็นตรงกันเรื่องพรรคอนาคตใหม่ของธนาธรที่ตอนแรกเสนอตัวออกมาค่อนข้างน่าสนใจในลักษณะเป็น "ทางเลือกใหม่" ในบริบทของความขัดแย้งสองขั้วการเมืองในทศวรรษที่ผ่านมา แต่พอเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการแล้ว ในแง่ธาตุแท้ทางการเมืองและทิศทางทางการเมือง
พรรคอนาคตใหม่ของธนาธรเป็นแค่เวอร์ชั่นที่ "สู้รบ"(militant) กว่าของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

 

เสียงตอบรับพรรคอนาคตใหม่ของธนาธร ส่วนใหญ่จึงเป็นเสียงเดิมที่เคยเชียร์พรรคเพื่อไทย ทั้งๆที่ก็ยังเชียร์เพื่อไทยอยู่ ที่มาเชียร์อนาคตใหม่(อคม.)เพิ่มเพราะเห็นว่าได้แนวร่วมมาช่วยเพื่อไทยมากขึ้นเท่านั้น

การเปิดตัวของอนาคตใหม่และสิ่งที่อนาคตใหม่กำลังทำอยู่ทั้งทางความคิดและทางการเมืองนั้น ดีต่อเพื่อไทยแน่นอน ในแง่ที่ว่าอนาคตใหม่อาสาตัวเองเป็น "หน่วยกล้าตายปลายหอก"ให้เพื่อไทยที่ไม่ต้องสู้ในเกมยาก เพราะอนาคตใหม่อาสาออกหน้าแทน รับแรงกระแทกและความเสี่ยงต่างๆไปแทนหมด

ดังนั้นโอกาสที่อนาคตใหม่จะเป็นพรรคที่เป็นทางเลือกใหม่ที่แท้จริง ที่นำไปสู่การสร้างฉันทาคติใหม่ที่จำเป็นต่อการปฏิรูปประเทศไทยทั้งระบบเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยและธรรมาธิปไตยในที่สุดนั้น จึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะผู้นำพรรคอย่างธนาธรเป็นพวก "ความคิดก้าวหน้าแต่จิตและคุณธรรมล้าหลังกว่าความคิดก้าวหน้าของตัวเอง"

 

 

พูดก็พูดเถอะ การที่อนาคตใหม่เปิดตัวชัดเจนแล้วว่าตัวเองเป็นแค่เวอร์ชั่น"ดุ"กว่าของเพื่อไทยเท่านั้น มันจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งสองขั้วการเมืองในหมู่ประชาชนกลับมาอีกครั้ง

 

การเปิดตัวในวันนี้ของพรรค "รวมพลังประชาชาติไทย" (รปช.) ถือว่าน่าสนใจและน่าจับตายิ่งใน 2 ประเด็นคือ

 

 

(1) พรรคนี้มีพลวัตทางการเมืองและทางความคิดที่ทรงพลังพอที่จะสร้างฉันทาคติใหม่ที่จำเป็นต่อการปฏิรูปประเทศไทยทั้งระบบเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงหรือธรรมาธิปไตย คือ ต้องสามารถก้าวข้ามความขัดแย้งระหว่างสีเสื้อได้แบบ "ก้าวข้ามแต่หลอมรวม"ข้อเสนอที่มีคุณค่าจากทั้งสองฝ่ายสีเสื้อมาใช้ในการปฏิรูปประเทศในทุกๆด้านหลังจากนี้ได้ เพราะนี่คือภารกิจทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งของพรรครวมประชาชาติไทย ที่มีฐานสนับสนุนคือมวลมหาประชาชน

 

 

(2) ในสายตาของนักกลยุทธ์ ผมคิดว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยน่าจะเป็น "ตัวเลือกจริงๆ" สำหรับมวลมหาประชาชน ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่พรรคพลังธรรมใหม่ ไม่ใช่พรรคประชาชนปฏิรูป และไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ มวลมหาประชาชนควรเทคะแนนไปที่พรรคนี้พรรคเดียวแทน เพื่อให้พรรครวมพลังประชาชาติไทยมีคะแนนเสียงมากพอที่จะกลายเป็นพรรคการเมืองในระดับประเทศ จนกลายเป็นพรรคใหญ่ที่สามารถต่อกรทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ได้ 

 

 

เพราะนี่คือทางเลือกทางเดียวจริงๆในความเป็นจริงของประเทศไทยตอนนี้ที่มวลมหาประชาชนจะสามารถก้าวข้ามความขัดแย้งสองขั้วการเมืองในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมาได้