ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

กลายเป็นเรื่องที่ฉาวที่สุดตอนนี้สำหรับวงการสงฆ์ เพราะหลังจากที่ มีการเข้าไปตรวจสอบเรื่องของคดีเงินทอนวัด ที่มีการดำเนินการไปแล้ว 3 ล็อตมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 340 ล้านบาท และเป็นการตรวจสอบทุจริตงบใน 3 งบประมาณ คือ งบบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม จนนำมาซึ่งการเข้าจับกุม 7 พระชั้นผู้ใหญ่ พัวพันคดีเงินทอนวัด

1.อดีตพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร 
2.อดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม
3.อดีตพระศรีคุณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ 
4.อดีตพระราชกิจจาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ 
5.อดีตพระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ 
6.อดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร 
7.อดีตพระอรรถกิจโสภณ เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพ วัดสามพระยา

เพราะฉะนั้น ในรายการเนชั่นเจาะข่าวร้อน 05 มิถุนายน 2561 จึงได้อธิบายตอบคำถามว่าครั้งนี้ถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่ชาวพุทธ ต้องทำความเข้าใจจริงๆแล้วว่าพระพุทธศาสนามันคืออะไร ????? 

ถึงเวลาสังคายนา !!! เรื่องฉาว "วงการสงฆ์" !? สู่การเข้าใจของประชาชน ..พระพุทธศาสนาแท้จริงมันคืออะไร ???  (มีคลิป)

01 มิถุนายน พ.ศ. 2561   "สมเด็จพระสังฆราช"   ประทานพระโอวาทเจ้าคณะพระสังฆาธิการ เน้นย้ำยึดธรรมะ "วิมังสา" หมั่นใช้ปัญญาใคร่ครวญในสิ่งที่ทำ ช่วยกันตรวจตราผู้อยู่ในปกครองมีสำนึกในการปฏิบัติตนตามครรลองพระธรรมวินัย
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต เสด็จไปวัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดการประชุมกรรมการเถรสมาคมธรรมยุต ประจำพุทธศักราช 2561 และการประชุมสังเกตการณ์ของเจ้าคณะจังหวัดคณะธรรมยุต

สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า “ท่านที่มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเจ้าคณะพระสังฆาธิการ เป็นผู้มีหน้าที่และความรับผิดชอบสำคัญในหลายบทบาท ทั้งในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายของบ้านเมือง ทั้งในฐานะผู้บริหารภารกิจให้ลุล่วงตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่งต่างๆ ทางคณะสงฆ์ และที่สำคัญที่สุดคือในฐานะพระเถระในพระบวรพุทธศาสนา ผู้มีบทบาทหน้าที่ตามพระธรรมวินัย

ทุกท่านล้วนรู้จักธรรมะหมวดอิทธิบาท 4 กันดีอยู่แล้ว แต่ในที่นี้ อาตมภาพขอเน้นย้ำธรรมะประการสุดท้ายคือ วิมังสา ได้แก่ การหมั่นใช้ปัญญา พิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล และตรวจสอบข้อยิ่งข้อหย่อนในสิ่งที่ทำนั้น ให้มีการวางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุง สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้พระราชทานพระราโชบายแก่การคณะสงฆ์ไว้ ดังที่อาตมภาพเชิญมากล่าวย้ำอยู่เสมอๆ พระองค์มีพระราชประสงค์ให้พระมีความสำนึก และเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทย

ถึงเวลาสังคายนา !!! เรื่องฉาว "วงการสงฆ์" !? สู่การเข้าใจของประชาชน ..พระพุทธศาสนาแท้จริงมันคืออะไร ???  (มีคลิป)

จริงๆแล้วหากมองในภาพที่เป็นข้อเท็จจริง พระพุทธศาสนาแค่ “คนนุ่งเหลืองห่มเหลือง” เท่านั้นจริงๆ หรือถึงจะเรียกว่าพระ เพราะประชาชนจึงไม่ต้องเข้าไปตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดหรือ ?? จริงๆแล้วคำถามที่เกิดขึ้นก็ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น เอาง่ายๆ ก็คือว่า เหตุผลดังต่อไปนี้

1.พระพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ชัดเจนว่าตัวแทนของพระพุทธเจ้าคือ พระธรรมคำสั่งสอน !!
 
ดังนั้นต้องมารู้กันก่อนว่า พระพุทธเจ้าสั่งสอนเรื่องอะไร ว่าสรรพสิ่งเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
นั่นก็คือ ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงคงรูปอยู่ไม่ได้ ไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้ ทกอย่างเป็นแบบนี้ แม้แต่ร่างกายเราเอง 

นี่จึงเป็นที่มาของความหมายส่าให้ปล่อยวาง 
2.พระพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า ผู้ที่จะช่วยรักษาพระพุทธศาสนา ต้องประกอบด้วย พุทธบริษัท 4  คือหมู่ชนที่นับถือพระพุทธศาสนา มี 4 จำพวกคือ

ภิกษุ  , ภิกษุณี , อุบาสก ,อุบาสิกา 
ดังนั้นการทำนุบำรุงพระพุทธศานา ฝ่ายประชาชน ฝ่ายบ้านเมือง ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการเข้าไปดูแล 
 

ถึงเวลาสังคายนา !!! เรื่องฉาว "วงการสงฆ์" !? สู่การเข้าใจของประชาชน ..พระพุทธศาสนาแท้จริงมันคืออะไร ???  (มีคลิป)

 

ส่วนอดีตที่ผ่านมาชัดเจนได้มีการชำระสะสางพระ ในแต่ละยุคสมัยชัดเจน เพราะพระเกิดความเหลวไหล เละเทะ ซึ่งในสมัยกรุงรัตนโกสินก็เคย เช่นในสมัยรัชกาลที่ 4พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ด้านพระพุทธศาสนา  พระองค์ทรงฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง โดยทรงตั้งธรรมยุตติกาวงศ์ขึ้น เป็นนิกายใหม่ในพระพุทธศาสนา ที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยและระเบียบแบบแผน ด้านพระพุทธศาสนา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกาศพระราชบัญญัติเรื่องพระสงฆ์สามเณรลักเพศ พ.ศ.2404

ถึงเวลาสังคายนา !!! เรื่องฉาว "วงการสงฆ์" !? สู่การเข้าใจของประชาชน ..พระพุทธศาสนาแท้จริงมันคืออะไร ???  (มีคลิป)

นี่คือสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าการเข้าไปทำดังกล่าวนั้นเพราะความเหลวไหล เละเทะของพระพุทธศาสน มีความเคลื่อนไหวจากนายสุชาติโพสต์ดข้อความในเฟซบุ๊ก  Suchart Thada-Thamrongvech มาต่อเนื่องนับแต่วันเกิดกรณีเงินทอนวัด  โดยเขาระบุว่า...พระพุทธศาสนาเป็นสถาบันหลักของชาติไทย อยู่คู่กับคนไทยมานานนับพันๆปีขณะนี้เกิดอาเพศ เกิดเหตุผิดปกติวิสัย คณะสงฆ์ สถาบันสงฆ์ และพระพุทธศาสนา ถูกคุกคามอย่างไม่สมเหตุสมผลมีความรุนแรงอย่างมากพี่น้องประชาชนไทยทั่วโลกครับ ร่วมกันช่วยดูแลปกป้อง ค้ำจุนพระพุทธศาสนาของเรากันนะครับ....

2-3 วันมานี้ มีจนท.รัฐ บุกไปค้นบ้านคน 2 แห่ง แล้วออกข่าวว่า พระผู้ใหญ่ทำผิดเรื่องเงินทอนวัดทั้งๆ วัดมีหลักฐานเอกสารสัญญาจ้างงานถูกต้อง แต่คนเหล่านี้ไม่พูดถึง ใส่ร้ายพระผู้ใหญ่ไปก่อน ให้มีมลทินในสังคมไปก่อน...

ขณะนี้ พระพุทธศาสนาได้ถูกกระทำในด้านลบอย่างมากมาย ตั้งแต่การบุกปิดล้อมวัดฯไม่ให้เข้าออก การรื้อทำลายวัดป่า การสั่งไม่ให้ราชการอุดหนุนเงินวัด การเล่นงานพระระดับสมเด็จฯ โดยให้ข่าวให้ร้ายให้เสื่อมเสีย ทั้งหมดนี้เป็นขบวนการของพวกมารศาสนาพี่น้องประชาชนไทยครับช่วยกันดูแลศาสนาพุทธ ของเรานะครับ...

พระเดชพระคุณพระพรหมทั้ง 3 ท่าน และพระผู้ช่วย ไม่รู้เรื่องเลยว่า รัฐฯ จะจับท่าน ไม่เคยมีหมายเรียกให้ไปชี้แจงเรื่องที่กล่าวหา จู่ๆ ก็นำตำรวจไปจับ คัดค้านการประกันตัว ดูแล้วผิดปกติมากพี่น้องประชาชนไทยครับช่วยกันปกป้องสถาบันสงฆ์ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา นะครับ...

ถึงเวลาสังคายนา !!! เรื่องฉาว "วงการสงฆ์" !? สู่การเข้าใจของประชาชน ..พระพุทธศาสนาแท้จริงมันคืออะไร ???  (มีคลิป)

เพราะฉะนั้นต้องมาดูข้อเท็จจริงก่อนว่ามันคืออะไร ซึ่งเป็นข้อขัดแย้งอย่างยิ่งกับนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ที่ได้ว่าเอาไว้  สำหรับ พระพรหม และพระผู้ช่วย ตามที่นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ได้ระบุเอาไว้นั้น   ซึ่งโดยข้อเท็จจริง พระพรหมทั้ง 3 ท่าน และพระผู้ช่วย เจอดำเนินคดีหลังจากที่เข้าไปการตรวจสอบทุจริตงบใน 3 งบประมาณ คือ งบบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม
ต้องมาดูว่า สุชาติ ธาดาธำรงเวช เหตุผลอะไรทำไมถึงกระโดดออกมาอย่างนี้ ???

ถึงเวลาสังคายนา !!! เรื่องฉาว "วงการสงฆ์" !? สู่การเข้าใจของประชาชน ..พระพุทธศาสนาแท้จริงมันคืออะไร ???  (มีคลิป)

 

นอกเหนือจากไม่มีสภานะของความเป็นสงฆ์แล้วยังพาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองซะด้วยซ้ำ คือ เอื้อน กลิ่นสาลี หรืออดีต พระพรหมดิลก ฉายา หาสธมฺโม ป.ธ. 9 เป็นอดีตพระราชาคณะเจ้าคณะรอง เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร    อาจารย์เอื้อนเคยเป็นแกนน้ำจัดงานอะไรซักอย่าง และมีการ "โฟนอิน" ไปถึงชาวเขาเผ่าแม้วพลัดถิ่นในลอนดอน โดยในครั้งนั้น "อาจารย์เอื้อน" ได้ออดอ้อนเป็นบทกลอนว่า "ถึงอาตมาจะห่มจีวรสีเหลือง แต่หัวใจสีแดง"

ถึงเวลาสังคายนา !!! เรื่องฉาว "วงการสงฆ์" !? สู่การเข้าใจของประชาชน ..พระพุทธศาสนาแท้จริงมันคืออะไร ???  (มีคลิป)


ซึ่งจะเป็นเหตุนี้หรือไม่ ที่นาย สุชาติ ธาดาธำรงเวช ออกมาปกป้อง ???