ไม่ผิดอย่ากลัว"บิ๊กตู่"ซัดกลับ"อนาคตใหม่"หลังปูดถูกคุกคาม ทำถูกกฏหมายใครจะไปแตะได้!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

จากกรณีที่แฟนเพจพรรคอนาคตใหม่ ใช้ชื่อว่า “อนาคตใหม่ - The Future We Want”  ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเป็นหัวหน้า ได้เผยแพร่แถลงการณ์ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการคุกคามผู้มาร่วมประชุมจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่  ได้มีการกล่าวอ้างว่าทางเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจได้การคุกคามสิทธิเสรีภาพในการเดินทางของประชาชน ซึ่งบางช่วงของแถลงการณ์ระบุว่า....

...ในวันงาน(ประชุมจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยตามปกติ ยังมีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมากที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ปะปนกับผู้ชมงาน บันทึกภาพบรรยากาศอย่างละเอียด รวมถึงตามถ่ายภาพทะเบียนรถที่จอดอยู่รอบๆ ยิมเนเซียมที่จัดการประชุม และหลังจากนั้นไม่กี่วัน สมาชิกก่อตั้งของพรรคอนาคตใหม่จำนวนมาก ก็ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามไปถึงบ้าน และข่มขู่คุกคามให้หวาดกลัว 

 

การกระทำดังกล่าว นอกจากจะเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการเดินทางของประชาชน ยังละเมิดสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง ....

 

 

ในช่วงท้ายของแถลงการณ์ยังระบุอีกด้วยว่า “ พรรคอนาคตใหม่จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐ ยุติการกระทำอันลุแก่อำนาจ ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพพลเมือง และให้ปฏิบัติกับพรรคการเมืองทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกัน ปล่อยให้พรรคการเมืองและประชาชนทุกคนทำกิจกรรมต่าง ๆ อันพึงมีในระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมาถึงเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามหลักสากล”

 

ไม่ผิดอย่ากลัว"บิ๊กตู่"ซัดกลับ"อนาคตใหม่"หลังปูดถูกคุกคาม ทำถูกกฏหมายใครจะไปแตะได้!!

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนขอถามว่าเขาทำผิดกฎกมายหรือไม่ ถ้าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ใครจะไปแตะต้องเขาได้

 
          ดังนั้นตนไม่ได้ให้นโยบายว่าจะต้องไปติดตาม แต่ถ้าเขามีปัญหา ก็ต้องมีคนไปเตือน หรือแจ้งว่าไม่ควรทำ เพราะวันข้างหน้าก็ผิดกฎหมายได้ ถ้าเขาไม่เตือนจะเป็นอย่างไรต่อไป เขาก็ออกมาด่าไปเรื่อย โขมงโฉงเฉง บางคนก็บอกว่ารัฐบาลไม่เอาจริง ทำไมปล่อยให้คนพวกนี้ด่าอยู่ได้

 
         นี่แหล่ะรัฐบาล ไม่ได้พยายามใช้กฎหมายเต็มที่ แต่ก็อาจจำเป็นถ้าสถานการณ์รุนแรงมากกว่านี้ คนบางคนไม่ควรจะมีสิทธิ์ มาพูดในสื่อโซเชี่ยลอีกแล้ว ตนถามว่าจะไปขยายความให้เขาทำไม ในเมื่อความผิดชัดเจนอยู่หลายคน คดีความก็มีอยู่ แล้วเอามาสู้กับตน เอามาสู้กับรัฐบาล มันถูกไหม ไม่รักประเทศกันเลยหรืออย่างไร กฎหมายมีทุกตัว หลายคดีความพันไปสู่เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน จำกัดสิทธิ

 
          ตนถามว่า ที่เขาทำผิด ทำไมไม่ดูว่าผิดตรงไหน มีกฎหมายอื่นหรือเปล่า คนอื่นเดือดร้อนหรือไม่ อย่ามองแค่ประเด็นความเป็นเด็ก เป็นนักศึกษา แล้วผิดมากี่ครั้ง สังคมเขาเบื่อหน่ายหรือไม่ ถ้าสังคมเห็นชอบดีงาม จะทำอะไรก็ทำ ตนไม่ยุ่ง แต่บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ขอฝากไว้ด้วย เสร็จแล้วก็ทำให้ยาก เวลาที่หนีไปต่างประเทศ การเป็นเรื่องการเมือง หรือการละเมิดสิทธิ์มนุษยชนไปหมด

 

แล้วเขาก็ไม่ให้ตัวกลับมา ไปขอลี้ภัยกันใหญ่โตที่เมืองนอก เสร็จแล้วก็กลับมาเล่นงานที่รัฐบาล ว่าทำไมไม่ตามตัว นั่นก็เพราะเขาไม่ให้ เพราะเราไปตีความเป็นเรื่องการทำลายล้างกัน ซึ่งไม่เกิดประโชน์อะไร เรื่องเดิมก็คือเรื่องเดิม ต้องสู้คดีกันไป

 

 

ขณะเดียวกันพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า

 

ในทางปฏิบัติ ไม่ได้มีการสั่งการให้ดำเนินการในลักษณะนั้น ถ้ามีหลักฐาน สามารถถ่ายรูป แล้วแจ้งได้เลย เราจะลงโทษตามกรอบ แต่โดยสำนึกพื้นฐาน อาจจะมีบ้างหน่วยข่าว ต้องการรู้ใครทำอะไร เป็นพื้นฐานของหน่วยข่าว แต่ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องไปคุกคาม

 

 

"ผมเข้าใจดี พรรคอนาคตใหม่ยืนทิศทางที่ตรงข้ามกัน ถ้าเรายิ่งใช้อำนาจเผด็จการ ก็เป็นการเพิ่มคะแนนนิยมให้เขา เราไม่ทำอยู่แล้ว ผมยืนยันว่า การคุกคามปัจจุบัน ไม่เกิดผลประโยชน์ แต่ไปเพิ่มคะแนนบวกให้กับฝ่ายที่กล่าวหาว่าถูกคุกคาม   เราระมัดระวังตัวเอง และเราก็เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร 

 

อย่างที่บอกพรรคการเมืองใหม่ๆ ก็ต้องหาแนวทางที่หวือหวา หาคะแนนความเห็นใจ จริงเท็จ ไม่รู้ พูดให้สื่อรับฟังได้ ถือเป็นทิศทาง แต่สื่อก็อย่าไปตามข่าวในทุกประเด็นที่คิดว่าต้องใช่"  พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว