แฉหนัก!! คาถา "คุ้มครองโลก" แสดงฤทธิ์..คุ้มครอง "เจ้าคุณจำนงค์" อยู่รอดปลอดภัย ณ เยอรมัน!!

ความคืบหน้าการติดตามตัว พระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรือ อดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีเงินทอนวัด หลังพบเบาะแสว่าอดีตพระพรหมเมธีหลบหนีไปยังประเทศเยอรมนี 

 

ทำให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เดินทางไปที่เยอรมัน เพื่อไปรับตัว อดีตพระพรหมเมธี แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะ อดีตพระพรหมเมธีที่ได้เดินทางไปถึงประเทศเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัย ทาง ตม.เยอรมนี จึงได้ส่งคำขอลี้ภัยดังกล่าว ไปยังสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธรณรัฐเยอรมนี (BAMF) และขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการสัมภาษณ์ สอบประวัติ และซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่ยื่นคำขอลี้ภัยโดยกระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน

จึงยังไม่ได้ตัวกลับมาดำเนินคดี และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุทธิพล วงศ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และทีมงานส่วนหนึ่ง รอที่ประเทศเยอรมนี เพื่อประสานงานต่อไป และเพื่อนำอดีตพระพรหมเมธีกลับไทย

 

ขณะเดียวกันทางด้าน www.alittlebuddha.com ได้เผยแพร่บทความ “เส้นทางมหาบูรพาจารย์ทอดไกลไปถึงเยอรมัน” ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเดินทางหลบหนีของอดีตพระพรหมเมธี ระบุว่า...

 

อา..เสียงใสๆ ดังกระหึ่มทั่วนครแฟรงเฟิร์ตในเวลานี้ น่าจะเป็นวลีที่ว่า "ยินดีต้อนรับสู่เยอรมนี" ซึ่งเสียงนี้ก็คุ้นๆ เป็นเสียงนำถวายข้าวพระไปทั่วโลก ของ ฯพณฯ ธัมมชโย นั่นเอง นะจ๊ะ !

 

ถามชัดๆ ว่า ลำพังเจ้าคุณจำนงค์ วัย 77 ปี ไม่รู้ภาษาอังกฤษ ไม่รู้ภาษาเยอรมัน จะสามารถ "ทำเรื่องขอลี้ภัย" ได้ไง ภายในพริบตา ขนาดว่าตำรวจไทยตีตั๋วด่วนไล่หลังไปหลัดๆ ยังตามไม่ทัน ถูกกันไว้แค่..ม่านบังตา ถามว่าใครช่วยเหลือเจ้าคุณจำนงค์ คำตอบนั้นก็คงหาได้จากสมการ "ยิ่งลักษณ์" ว่าโดยลำพังแล้ว ผู้หญิงตัวคนเดียว จะสามารถเหาะจากบ้านพักไปถึง "ลอนดอน" ได้อย่างไร ในโลกนี้ คนที่มีฤทธิ์ระดับ "จับหัวบิ๊กตู่เล่น" โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เห็นทีก็มีเพียง 2 ท่าน คือท่านแม้วกับธัมมชโย คนโตแห่งคลองสาม ONLY !

 

คาถา "คุ้มครองโลก" แสดงฤทธิ์

ถ้าเราคุ้มครองโลก โลกก็จะคุ้มครองเรา

ถ้าเรารักธรรมกาย ธรรมกายก็จะรักเรา นะจ๊ะ

แต่กรณีนี้ ชี้ชัดว่า แผนการหนีของเจ้าคุณจำนงค์นั้น เริ่มต้นที่ "คลองสาม" วาดแผนที่แผนทางผ่าน "ลาว-เขมร-เวียตนาม" สุดการเดินทางที่ "เยอรมนี" ทีนี้แค่เครื่อง "ทัชดาวน์" พื้นสนามบินแฟรงเฟิร์ตปุ๊ป เอกสารยื่นขอลี้ภัยก็เสร็จปั๊ป เจ้าคุณจำนงค์เดินเข้าแถวตรวจหนังสือเดินทาง พอพาสปอร์ตข้าราชการ "เด้ง" เพราะถูกทางการไทยเพิกถอน แต่กลับถูก "คำร้องขอลี้ภัย" สอดแทรกเข้ามาแทน ทำนองเป็น "วีซ่าชั่วคราว" ผ่านเข้าเมืองเยอรมนี อย่างน้อยก็อยู่ได้นานถึง  1 ปี ถึงตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์เมืองไทยจะเป็นอย่างไร บิ๊กตู่จะได้กลับมาเป็นนายกฯ "รอบสอง" หรือไม่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

 

ผลของการสามารถลี้ภัยได้ครั้งนี้ บ่งชี้ว่า เจ้าคุณจำนงค์ คือพระเหนือพระ เหนือกว่าพุทธะอิสระวัดอ้อน้อย ผู้เก่งกาจถึงขนาด "เจิมหัวบิ๊กตู่-ก่อม็อบปิดถนนไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์สำเร็จ" แต่ก็มาเสร็จ คสช. ต้องนอนซังเตกินข้าวแดงใช้ชื่อ "นช.สุวิทย์" อยู่ในบัดนี้ แต่เจ้าคุณจำนงค์นั้นเหนือชั้นกว่ามาก รัฐบาลทหารไม่ได้ระคายแม้แต่ชายจีวร นั่งเป็นประธานสงฆ์ให้วัดพระธรรมกายเยอรมัน ถูกอกถูกใจ..พ่อใหญ่ธัมมชโย แบบนี้สิ มิเสียทีที่คบกันมา

 

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับขั้นตอนการเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเรื่องของการขอลี้ภัย ทางการเยอรมนีจะต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายๆ ด้าน ประกอบด้วย 1.การขอลี้ภัยทางการเมือง 

2.การขอลี้ภัยในประเภทฐานะผู้ลี้ภัย 

3.การขอรับความคุ้มครองเพียงบางส่วน

4.การขอคุ้มครองเพื่อไม่ให้ถูกส่งไปยังประเทศต้นทาง

 

ในส่วนของอดีตพระพรหมเมธี มีการคาดการ ได้จะยื่นคำขอลี้ภัยโดยให้เหตุผลว่า ถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดี ถูกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ด้วยเหตุผลทางการเมือง ศาสนา เชื้อชาติ ละเมิดพื้นฐานความเป็นมนุษย์ 

 

หากการยื่นขอลี้ภัยของ อดีตพระพรหมเมธี ในครั้งนี้ถูกปฏิเสธ  อดีตพระพรหมเมธีก็ยังมีสิทธิที่จะยื่นคำขออุทธรณ์ต่อไปได้อีก ขณะที่การขอความร่วมมือ เรื่องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จากข้อมูลของกองการต่างประเทศ พบว่าไทยกับเยอรมนี ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน มีเพียงสนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ ที่มีมาตั้งแต่ปี 2536