น่าคิดอย่างยิ่ง-ลำพัง"มหาเถรจำนงค์"ไม่รู้ทั้งอังกฤษ-เยอรมัน ทำไมตำรวจไทยคว้าตัวไม่ถึง ฤาเพราะอิทธิฤทธิ์"หลวงพ่อนะจ๊ะ" สั่งสาวกช่วยไว้ทัน??

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

กลายเป็นหนังเรื่องยาวจริง ๆ สำหรับ คดีโกงเงินวัดรอบล่าสุด หลัง “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางกลับมามือเปล่าจากการพยายาม ตามล่าตัว “อดีตพระพรหมเมธี” หรือ "มหาเถรฯ จำนงค์" อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงฯ ตัวละคร "ชั้นพรหม" รายสุดท้ายสำหรับคดี "ล็อตที่ 3" นี้ที่หนีข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงมหานครแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี ก่อนจะไปติดด่าน ตม.ที่นั่น เพราะทางการไทยแจ้งยกเลิกหนังสือเดินทางสีน้ำเงิน...ที่ "มหาเจ้าคุณ" ใช้เป็นใบเบิกทางได้ทันแบบเฉียดฉิว

 

ข่าวระบุว่า “พล.ต.อ.จักรทิพย์” เดินทางถึงไทยช่วงเที่ยงกว่า ๆ วานนี้  และก็ไร้แม้เงาของ "มหาเถรจำนงค์" ที่ ผบ.ตร. ถึงกับลงทุนจับเครื่องบินไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง โดยหวังใจว่าจะ "ซิว-มหาเถร" รายนี้กลับมาด้วยมือตน แต่เมื่อ "วืดเป้าอย่างหนัก"  ก็หลบเลี่ยงกองทัพนักข่าวที่รอดักอยู่ออกไปข้างหลังอย่างเงียบ ๆ


มีคำถามถามมามากมายว่า เหตุใด "มหาเถรจำนงค์" ที่วัยก็ล่วงเข้าสู่ความชรา แถมทางการข่าวยืนยันว่า...ท่านมหาเถร...ไม่รู้ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมันเลยสักนิด จะสามารถทำเรื่องขอลี้ภัยกับทางการเยอรมันได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น...แม้แต่เบอร์ 1 กรมตำรวจไทยไปลุยด้วยตนเองยังคว้าตัวเอาไว้ไม่ทัน

 

ผู้รู้หลายท่านอธิบายเรื่องนี้ไปในทางเดียวกันว่า เรื่องนี้ไม่อาจตีความเป็นอื่น...เพราะอดีต "มหาเถรจำนงค์" นั้น ซี้ย่ำปึกกับ "หลวงพ่อนะจ๊ะแห่งสำนักจานบิน" ที่มีลูกศิษย์ลูกหาความรู้ดีอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะที่เยอรมันนั้น มีสาขาของวัดพระธรรมกายมากถึง 7 แห่ง เป็นรองแค่สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ที่มีสาขามากเป็นอันดับ 1 และ 2 เท่านั้น

 

...เหตุนี้ไม่ต้องบอกคงนึกออกว่า "มหาเถรจำนงค์" จึงเลือกปลายทางที่เยอรมนี เพราะทันทีที่เท้าเหยียบเยอรมัน คำร้องขอลี้ภัยกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประเทศเยอรมนีก็เสร็จเรียบร้อยก่อนหน้านานนับชั่วโมงแล้วก็เป็นได้...รอเพียงเจ้าตัวมายื่นแจ้งความจำนงค์ด้วยตนเองเท่านั้น...ทั้งหลายทั้งปวงนั่น...ว่ากันว่า ล้วนแต่เป็นอภินิหารของ  "หลวงพ่อนะจ๊ะแห่งสำนักจานบิน" ที่สั่งการมาโดยตรงนั่นเอง

 

อ่าน โคตรด้าน"โกงเงินวัด-ซุกเมีย แต่ขอลี้ภัยการเมืองเฉย"? คุ้นมั้ย-ต่างอะไรกับ"โกงข้าวให้พวกรวย-อ้างการเมืองแกล้ง" คนพวกนี้ตะเภาเดียวกันทั้งนั้น

 

เรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน...อาจต้องรอดู แต่รับรองว่าไม่คลาดเคลื่อนไปจากนี้มากนัก และอย่าลืมว่า..."มหาเถรจำนงค์" เป็นหนึ่งพระเถระฯ ของ มส. ที่ยกมือให้ "ธัมมชโย" ไม่ต้องอาบัติปาราชิกจากคดียักยอกทรัพย์ของวัดธรรมกาย ที่มีมติ มส. ออกมาตั้งแต่ช่วงปี 2558 แถมตอนนั้นยังออกมานับรองเรื่องนี้ด้วยตนเอง ในฐานะโฆษกมหาเถรฯ เสียด้วย...ดังนั้น เรื่องการตอบแทนกันในยามยากจึงเป็นหน้าที่ของ "หลวงพ่อนะจ๊ะ" ดังที่คอลัมนิสต์ใหญ่ ๆ ก็ระบุไว้เช่นนั้น

 

บางท่านยืนยันด้วยซ้ำว่า หากไม่ได้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาสาวกจานบิน ที่ได้รับคำสั่งตรงจาก "หลวงพ่อนะจ๊ะ" ตำรวจไทยอาจไม่ต้องกินแห้วเช่นนี้

 

เรื่องนี้ยิ่งชัดขึ้นอีกเมื่อ "www.alittlebuddha.com" ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เกาะติดวงการผ้าเหลืองอย่างเข้มข้นมาตลอด และมักจะเหน็บแนมให้ได้รู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตต่อกรณี ผ่านบทความ “เส้นทางมหาบูรพาจารย์ทอดไกลไปถึงเยอรมัน” ซึ่งเปิดเผยเส้นเดินทางหลบหนีของ "มหาเถรจำนงค์" เอาไว้แบบน่าสนใจ...และคงยากที่ใครจะโต้แย้งในเรื่องนี้ เอาไว้สั้น ๆ ว่า
 

"อา..เสียงใสๆ ดังกระหึ่มทั่วนครแฟรงเฟิร์ตในเวลานี้ น่าจะเป็นวลีที่ว่า "ยินดีต้อนรับสู่เยอรมนี" ซึ่งเสียงนี้ก็คุ้นๆ เป็นเสียงนำถวายข้าวพระไปทั่วโลก ของ ฯพณฯ ธัมมชโย นั่นเอง นะจ๊ะ !


 ถามชัดๆ ว่า ลำพังเจ้าคุณจำนงค์ วัย 77 ปี ไม่รู้ภาษาอังกฤษ ไม่รู้ภาษาเยอรมัน จะสามารถ "ทำเรื่องขอลี้ภัย" ได้ไง ภายในพริบตา ขนาดว่าตำรวจไทยตีตั๋วด่วนไล่หลังไปหลัดๆ ยังตามไม่ทัน ถูกกันไว้แค่..ม่านบังตา ถามว่าใครช่วยเหลือเจ้าคุณจำนงค์ คำตอบนั้นก็คงหาได้จากสมการ "ยิ่งลักษณ์" ว่าโดยลำพังแล้ว ผู้หญิงตัวคนเดียว จะสามารถเหาะจากบ้านพักไปถึง "ลอนดอน" ได้อย่างไร ในโลกนี้ คนที่มีฤทธิ์ระดับ "จับหัวบิ๊กตู่เล่น" โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เห็นทีก็มีเพียง 2 ท่าน คือท่านแม้วกับธัมมชโย คนโตแห่งคลองสาม ONLY !"
 

 

และเมื่อจิ๊กซอว์จากหลาย ๆ ฝ่ายที่พยายามปะติดปะต่อเริ่มให้ภาพที่ชัดเจน จากนี้ต้องจับตาดูว่า...ชะตากรรมของ "มหาเถรจำนงค์" จะลงเอยเช่นไร จะถูกลากคอมาจับสึก แล้วจับยัดคุกเฉกเช่น...เจ้าคุณคนอื่น ๆ ในคดีเดียวกันหรือไม่...หรืออาจหายเข้ากลีบเมฆซ้ำรอย "หลวงพ่อนะจ๊ะ" ผู้ออกหน้าช่วยเหลือไปอีกราย

 

ขอบคุณข้อเขียน : "www.alittlebuddha.com"