ซ้ำเติมแน่ถ้ายังไม่เปลี่ยน!!!! เผย ๖ สิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ ต้นเหตุที่ทำให้ "จนตลอดชีวิต" รีบแก้ไขก่อนไม่มีที่ยืนสำหรับคุณ!!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

“อ๊อกเฟม”ได้ออกมากล่าวในการประชุม เวิล์ด อีโคโนมิค ฟอรัม ว่า คนที่รวยที่สุดในโลก ๑% เป็นเจ้าของความมั่งคั่งมากถึง ๔๘% ของความมั่งคั่งบนโลก แล้วคุณคิดว่า! ในประเทศไทย คนรวยที่สุดจะครองความมั่งคั่งไปเท่าไหร่? แล้วจะเหลือพื้นที่กี่เปอร์เซ็นต์ไว้ให้คุณ วันนี้! ถ้าคุณยังไม่ตื่นตัวพัฒนาตนเอง ก็เท่ากับคุณกำลังก้าวลงสู่ความจนไปทุกๆ วัน และเปอร์เซ็นต์ความมั่งคั่งของคุณก็จะยิ่งถูกคนรวยขยายอาณาบริเวณไปเรื่อยๆ

 

ซ้ำเติมแน่ถ้ายังไม่เปลี่ยน!!!! เผย ๖ สิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ ต้นเหตุที่ทำให้ "จนตลอดชีวิต" รีบแก้ไขก่อนไม่มีที่ยืนสำหรับคุณ!!!

 

๑. ใช้ชีวิตเกินค่าครองชีพ

หลายคนใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งจับจ่ายตามใจชอบ ซื้อของที่อยากได้ หรือแม้แต่ยอมเป็นหนี้บัตรเครดิต เพียงเพื่อต้องการซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นมาประดับชีวิตคุณให้ดูดี และ “ดูมี” เหมือนคนอื่น คนอื่นที่ว่าอาจทำได้ เพราะสถานะทางการเงินของเขาอาจมั่นคงหรือพร้อมกว่า แต่การใช้เงิน “เกินค่าครองชีพที่จำเป็น” เช่น กาแฟแก้วละ ๓๕-๔๐บาท กับ กาแฟแก้วละ ๑๐๐-๑๗๐ บาท ราคากาแฟแก้วละเท่าไหร่? ที่คุณรู้สึกว่าซื้อง่ายจ่ายสบายใจได้ทั้งเดือน นั่นคือราคากาแฟที่เหมาะกับค่าครองชีพที่คุณแบกรับไหว หากรู้สึกว่าหนักใจที่จะจ่ายแต่อยากซื้อ นั่นคือสัญญาณอันตรายทางการเงินที่คุณกำลังใช้เกินตัวอยู่
 

๒. หนักไม่เอา เบาไม่สู้

“ความจน” น่ากลัวกว่าที่คุณคิด ถ้าหากคุณลองถามมหาเศรษฐีทุกคนที่เริ่มต้นจากศูนย์ แต่ขยันทำมาหากิน พัฒนาตนเอง และกล้าก้าวข้ามความเหน็ดเหนื่อยจนกระทั่งสร้างตัวจนร่ำรวย พวกเขาเหล่านั้นจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่อยากกลับไปจนอีก” แต่สำหรับหลายคนที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือ เพิ่งเริ่มธุรกิจส่วนตัว แต่ยังไม่สู้งานหนัก ไม่พร้อมกลับบ้านดึก หรือเดินหนีปัญหาที่อยู่ตรงหน้าที่ควรรับผิดชอบ ก็คงยากที่จะพัฒนาไปสู่ความมั่งคั่งทางการเงิน เพราะโอกาสทองมาพร้อมหยาดเหงื่อเสมอ

 

 

ซ้ำเติมแน่ถ้ายังไม่เปลี่ยน!!!! เผย ๖ สิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ ต้นเหตุที่ทำให้ "จนตลอดชีวิต" รีบแก้ไขก่อนไม่มีที่ยืนสำหรับคุณ!!!

 

 

๓. ผัดวัน ไม่มีวินัย ชิลไปวันๆ

สโลว์ไลฟ์ คือชีวิตชั้นสูง ที่คนที่มีฐานะทางการเงินพร้อมพรั่งเท่านั้น จึงจะพร้อมสำหรับการนั่งจิบกาแฟเรื่อยๆ ท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ บินไปเที่ยวเมื่ออยากไป ใช้เงินซื้อความสะดวกสบายเท่าที่สบายใจ แต่กลับมาก่อน คุณยังเป็นหนี้ คุณยังไม่มีการเงินที่มั่นคง คุณยังไม่มีความสะดวกมือในการจับจ่าย เพราะคุณยังไม่มีวินัยทางการเงินที่ดีและรัดกุม ที่สำคัญ! คุณยังทำงานและเก็บเงินแบบผัดวันประกันพรุ่งอีกด้วย การเรียบเรียงชีวิตใหม่ จัดลำดับความสำคัญ ๑ ๒ ๓ ว่าเป้าหมายที่คุณต้องการในชีวิตคืออะไร จะทำให้คุณวางแผน ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และสร้างวินัยให้กับชีวิตที่ต้องการได้เร็วขึ้นเป็นเท่าตัว

๔. ไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น

“ไม่มีใครสามารถทำงานคนเดียวได้” แม้แต่อาชีพฟรีแลนซ์ ก็ยังต้องมีคอนเน็คชั่นเพื่อสร้างงานคุณภาพให้ประสบความสำเร็จ เมื่อคุณต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นในทีม สิ่งสำคัญไม่ใช่ผลงานที่ประสบความเร็จตามเป้า แต่คือประสิทธิภาพในการประสานงานให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดตามที่ตั้งเป้าไว้ หลายคนพลาดโอกาสสำคัญในการก้าวหน้าหรือเลื่อนตำแหน่งงาน เพราะไม่สามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานคนอื่นได้ จึงทำให้ผู้บริหารเห็นว่าคุณยังไม่เหมาะสมจะเลื่อนตำแหน่ง หรือ หากคุณทำธุรกิจอยู่ ก็คงจะติดขัดอย่างแน่นอน หากต้องร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์เพื่อขยายธุรกิจ แต่คุณกลับทำตัวเป็นพระเอกอยู่คนเดียว และเที่ยวบอกใครๆ ว่าคุณทำงานนี้สำเร็จทั้งๆ ที่เป็นผลจากการทำงานร่วมกันของทีมงาน

 

 

ซ้ำเติมแน่ถ้ายังไม่เปลี่ยน!!!! เผย ๖ สิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ ต้นเหตุที่ทำให้ "จนตลอดชีวิต" รีบแก้ไขก่อนไม่มีที่ยืนสำหรับคุณ!!!

 

 

๕. กลัวการตั้งเป้าหมายในชีวิต

การพุ่งชนเป้าหมาย อาจเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับบางคน เช่น คนที่ตั้งเป้าว่าจะ “ปลดหนี้” แต่กลัวการเห็นเงินในบัญชีพร่องลงจากการชำระหนี้ตรงตามเวลา หรือไม่มีวินัยในการปลดหนี้ จึงทำให้เลี่ยงการชำระหนี้ จนเป็นเหตุให้ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หรือบางคนตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บเงิน ๑๐-๒๐% จากเงินเดือนเป็นประจำ แต่กลับถอดใจเพราะเห็นสินค้าที่ชอบกำลังลดราคากระหน่ำ ทำให้ต้องควักเงินซื้อมาจนได้และเป้าหมายที่อยากเก็บเงินจึงล้มเหลวไม่เป็นท่า ความล้มเหลวที่คนเหล่านี้ประสบคือ “ความกลัวเป้าหมายที่ตนอยากทำ” หรือ ไม่กล้ามีเป้าหมาย เพราะกลัวทำไม่ได้ จึงเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะทำให้ชีวิตของคุณพังและไม่สามารถหลุดพ้นความจนได้สักที

 

 

ซ้ำเติมแน่ถ้ายังไม่เปลี่ยน!!!! เผย ๖ สิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ ต้นเหตุที่ทำให้ "จนตลอดชีวิต" รีบแก้ไขก่อนไม่มีที่ยืนสำหรับคุณ!!!

 

 

๖. คิดมากจนก้าวสู่ความขี้ขลาด

คนคิดมากกับคนรอบคอบนั้นต่างกัน คนคิดมากจะไม่ลำดับข้อมูลที่ควรนำมาไตร่ตรอง แต่จะนำทุกปัญหามารวมกันจนทำให้ไม่เห็นทางออก แต่คนที่คิดรอบคอบจะคิดเป็นเรื่องๆ และลำดับความสำคัญว่าเรื่องใดควรมาก่อนมาหลัง ทำให้คิดเป็นกระบวนการและได้คำตอบในแต่ละปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนประเภทที่คิดมากเมื่อทำธุรกิจ จะไม่กล้าวางแผนในการต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างกำไร เพราะกลัวความล้มเหลว ทำให้เสียโอกาสสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต หรือ คนที่คิดมากเมื่อทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน จะกลัวการแสดงความคิดเห็น หรือ ไม่กล้าที่จะทำงานยากๆ เพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่งเป็นเพราะการไตร่ตรองโดยใช้ทุกความคิดมารวมกัน จนกลายเป็นความกังวล หรือ ขยายจนเป็นความขี้ขลาด ที่จะรับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้น ทั้งๆ ที่โอกาสมาอยู่ตรงหน้า