ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

สืบเนื่องจากปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนจับกุมพระภิกษุชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันคดีทุจริตเงินทอนวัดแบบถอนรากถอนโคนโดยรัฐบาลโดยเฉพาะบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ของหนีไมพ้น พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตลอดจนการออกคำสั่งของพศ. สั่งตรวจสอบบัญชีวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามพระวินัยปิฎก พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทไว้อย่างชัดเจน ไม่ให้พระภิกษุรับ ใช้ให้คนอื่นรับ หรือแม้กระทั่งยินดีในเงินทองที่เขาเก็บไว้ให้ตน ยังรวมถึงอะไรก็ตามที่มีค่า ในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย ได้ เช่น ธนบัตร เหรียญ เช็ค บุตรกดเงินสด บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต การรับเงินทองจึงเป็นการผิดพระธรรมวินัย และเป็นอาบัติ แก่พระภิกษุที่รับ ไม่ว่าโดยเหตุผลใด ๆ

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มพระสงฆ์และฆราวาสบางกลุ่ม ได้กระทำการเคลื่อนไหวต่อต้าน บิดเบือนโจมตีรัฐบาล โดยสร้างกระแสพระถูกรังแก ดำเนินคดีเอาแต่กับพระ หรือรัฐบาลนี้มาเพื่อทำลายล้างพระพุทธศาสนา

 

ยกตัวอย่าง เช่นกับกรณีองค์กรชาวพุทธ  จังหวัดต่างๆ ล่าสุดกับของกลุ่มคนอ้างว่าเป็น องค์กรชาวพุทธ จังหวัดขอนแก่นได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่1/2561 อ้างถึงการบริหารจัดการบ้านเมืองปัจจุบัน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระพุทธศาสนา มีการกล่าวร้ายต่อพระสงฆ์ และผู้บริหารคณะสงฆ์ไทยให้เสื่อมศรัทธา จึงไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุนกับการทำงานของผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทุกกรณี เพราะไม่ใช่มติของชาวพุทธจังหวัดขอนแก่น พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อความเสียหายด้วยการปลดผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาให้พ้นจากตำแหน่ง

 

"สนธิญาณ"ชำแหละกลุ่มการเมือง เคลื่อนไหวผ่านศาสนา โจมตี บิดเบือน..สอดรับกันอย่างเป็นระบบ!

ปฏิเสธไม่ได้เลยการเคลื่อนไหว ความพยายามจะบิดเบือน เจตนาแอบแฝง ของพระบางกลุ่ม ฆราวาสบางก๊วน ที่ต้องโฟกัสเป็นพิเศษ ก็คือคณะบุคคลในสายการเมืองของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้เข้าไปแฝงตัว จนทำให้การเมืองและศาสนาได้ผสมปนกันไปหมด

 

โดยเรื่องนี้เองทางด้านของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม สื่อมวลชนอาวุโส ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มพระสงฆ์บางรูป และกลุ่มการเมือง  ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามจะคลิปวีดีโอที่แนบมา