อริสมันต์ ไม่รอด!! 1ใน5 โดนอสส.ฟ้องเพิ่มสนับสนุน ‘วัฒนา’ ฉาวบ้านเอื้ออาทรใช้อำนาจโดยมิชอบ ?

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

26 มิ.ย.61 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด(อสส.) มอบอำนาจให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต นำตัว น.ส.สุภาวิดา คงสุข กรรมการผู้มีอำนาจทำการแทน บริษัท ไทยเฉนหยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กับผู้แทน บริษัท พรินซิพเทคไทย จำกัด ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง ไปยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ คดีร่วมกันทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ(กคช.) พร้อมสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลความผิดร่วมกับ นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ยุครัฐบาลทักษิณ 2 กับพวก ซึ่งเป็นเอกชน และอดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ(บอร์ด) หรือ กคช.รวม 19 ราย

 
โดยวันนี้ เป็นการยื่นฟ้องจำเลยชุดที่ 2 แล้ว มีทั้งสิ้น 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือกี้ร์ อายุ 54 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย 

2.บริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด 

3.บริษัท นามแฟทท์ คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด 

4.บริษัท พรินซิพเทค ไทย จำกัด 

และ 5.น.ส.สุภาวิดา คงสุข กก.ผู้มีอำนาจทำการแทน บริษัท ไทยเฉนหยูฯ

ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน นายวัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจ เพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด แก่ตนเองหรือผู้อื่น และสนับสนุน นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (บอร์ด) หรือ กคช. ซึ่งเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148  และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 , 91


วันนี้ มีผู้ถูกกล่าวหามาพบอัยการเพียง 2 คน คือผู้แทน บจก.พรินซิพเทคไทย และน.ส.สุภาวิดา คงสุข กก.ผู้มีอำนาจทำการแทน บจก. ไทยเฉนหยูฯ โดยได้รับการประกันตัวหลังฟ้องไป ด้วยเงินสด 3 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นได้รับอนุญาตจากศาล

ส่วน นายอริสต์มันต์ , บจก.พาสทิญ่าไทย และ บจก.นามแฟทท์ คอนสตรัคชั่นฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคล  ซึ่งอัยการก็ได้ยื่นฟ้องไปเฉพาะสำนวนก่อนแบบไม่มีตัวผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) พ.ศ.2560 ใหม่ ขณะที่ในชั้นนี้ยังไม่มีการออกหมายจับนายอริสมันต์ และผู้แทนนิติที่ยังไม่ได้นำตัวมาส่งฟ้อง แต่หากในวันนัดพิจารณาครั้งแรก จำเลยที่อัยการสั่งฟ้องไปแล้วยังไม่มาปรากฏตัวครั้งแรกต่อศาล ก็จะสามารถดำเนินการออกหมายจับเพื่อนำตัวมาพิจารณาคดีได้ต่อ



ด้านศาลฎีกาฯ รับคดีที่ฟ้องนี้ไว้ในสารบบคดีหมายเลขดำ อม.102/2561 เพื่อพิจารณาคำฟ้องและมีคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องไว้พิพากษาหรือไม่ต่อไป ภายหลังที่จะมีการนัดประชุมใหญ่ศาลฎีกา ภายใน 14 วันหลังฟ้องเพื่อลงคะแนนเลือกผู้พิพากษา 9 คน ระดับตั้งแต่ผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาเพื่อเป็นองค์คณะรับผิดชอบสำนวน

 

ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด กล่าวว่า ในวันนี้มีเพียงตัวแทนผู้รับมอบอำนาจนิติบุคคล บจก.พรินซิพเทค ไทย และ น.ส.สุภาวิดา เดินทางมาพบอัยการ จึงได้นำตัวพร้อมสำนวนไปยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ส่วนนายอริสมันต์ ได้รับทราบนัดแล้วส่งตัวแทนมาพบอัยการรับฟังคำสั่งฟ้องในวันนี้ด้วย ส่วนผู้แทน บจก.พาสทิญ่าไทย และ บจก.นามแฟทท์ คอนสตรัคชั่นฯ อัยการยังไม่สามารถติดต่อได้ แต่ก็ได้ยื่นสำนวนฟ้องไปตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็จะต้องรอว่าหลังจากยื่นฟ้องไปแล้วศาลจะมีคำสั่งอย่างไร



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.61 ที่ผ่านมาพนักงานอัยการคดีปราบปรามทุจริต ได้ยื่นฟ้อง จำเลยชุดแรกไปแล้ว 9 ราย ประกอบด้วย 

นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พม. , 

นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตบอร์ดกคช.และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการระหว่างวันที่ 9 ก.ย.48 – 19 ก.ย.49 , 

นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผอ.ฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย , 

นายอภิชาติหรือเสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ , 

น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง , 

น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด
น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ , 

บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด โดยนายปกรณ์ อัศวีนารักษ์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน และบริษัท ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ไทย เฉน หยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) โดยนางพิมพ์วรา รัชต์ธนโรจน์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน

 

ศาลฎีกาฯ รับเป็นคดีหมายเลขดำ อม.42/2561 ได้นัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ เวลา 09.30 น.

โดยคดีนี้นายวัฒนา ได้รับการประกันตัวไป ด้วยวงเงิน 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขด้วย สั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

 

คดีดังกล่าวคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำทีก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ชี้มูลความผิดนายวัฒนา กับพวกว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเอกชนโดยการเคหะแห่งชาติ ในโครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการมาให้ อสส. เพื่อดำเนินคดี 

 

 

ต่อมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งสำนวนการไต่สวนที่เกี่ยวข้องกับคดีข้างต้นมาให้ อสส. ด้วย โดยขอให้รวมกับสำนวนของ คตส. อย่างไรก็ดีขณะนั้น อสส. พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนวนยังไม่สมบูรณ์จึงมีมติให้ตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่าย คือฝ่ายอัยการ และฝ่าย ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ ต่อมา อสส. เห็นว่าสำนวนคดีดังกล่าวสมบูรณ์แล้ว จึงมีคำสั่งรับดำเนินคดี